บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

CH. Karnchang (CK) กําไร 2Q64 ดีขึ้นจากบริษัทลูก

Results Review

ผลประกอบการ 2Q64

กําไร 2Q64 ดีขึ้น 318 ล้านบาท (+53%QoQ, +399%YoY) ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะมีกำไร 300 ล้านบาท แรงหนุนสำคัญจากบริษัทลูก คือรายรับปันผลจาก TTW 232 ล้านบาท ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนใน BEM และ CKP เพิ่มขึ้นเป็น 306 ล้านบาท (+92%QoQ, +577%YoY) หลักๆมาจาก CKP จากปีนี้น้ํามาก และมีกําไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนอีก 143 ล้านบาท ในขณะท่ียอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 2Q64 ยังอยู่ในระดับต่ำ 3,190 ล้านบาท (+9%QoQ, -20%YoY) เนื่องจาก Backlog ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ และในช่วงปลายไตรมาสยังถูกกระทบจากการปิดแคมป์คนงาน และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 8.1% จาก 8.3% ในไตรมาสก่อนและ 9.0% ในปีก่อน

แนวโน้มผลประกอบการ

ไตรมาส 3Q64 คาดจะได้แรงหนุนสําคัญจาก CKP ซึ่ง CK ถือหุ้น 30.67% คาดกําไรจะทํา New High ประมาณ 900-1,000 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสสองที่มีกําไร 707 ล้านบาท จากปริมาณน้ำในปีนี้ที่สูงมากกว่าปกติ และเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก และยังได้แรงหนุนจากเงินปันผลรับจาก TTW 232 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างจะถูก กระทบจากการปิดแคมป์คนงานในเดือนก.ค.แต่บางไซต์งานก่อสร้างก็ได้รับการผ่อนผัน ส่วนเดือนส.ค. เริ่มอนุญาตให้มีการก่อสร้างมากขึ้น รวมถึงเริ่มเปิดแคมป์คนงานในลักษณะ Bubble and Seal กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็นสัดส่วน 59% ของประมาณการทั้งปี เราคงประมาณการคาดกําไรปีนี้ 888 ล้านบาท เติบโต 45%

คําแนะนําการลงทุน

ราคาหุ้น CK ปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่ถูก คือ P/BV 1.2 เท่า อยู่บริเวณ Forward P/BV-2SD ระยะ 10 ปี ที่ 1.0X ในขณะท่ี CK มีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนําของประเทศคือ BEM, CKP และ TTW มีมูลค่าถึง 6 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 35 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวและช่วยเพิ่มงานให้ CK รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผล ประเมินเป้าหมายโดยวิธี Sum of the Part เท่ากับ 22 บาท คงแนะนํา TRADING BUY

ความเสี่ยง

การแพร่ระบาดของ Covid-19, อุปสรรคในการก่อสร้าง, ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง, ปัญหาแรงงานล่าช้า, การแข่งขันในงานประมูลโครงการต่างๆ

- Advertisement -