ASL ANALYSIS GUIDE
ประเมิน SET Index ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600
ประเด็นการลงทุน
1. ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อจีน-สหรัฐ มี.ค.
2. จับตาการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารสหรัฐ
3. ตลาดตอบรับ Election rally มากยิ่งขึ้น
วันนี้เคาะ EA แนวโน้ม 1Q66 ขยายตัวเด่น YoY จากการส่งมอบ EV Bus และ EV Truck จากฐานที่ต่ำในปีก่อนและไม่มีการส่งมอบรถ EV รวมถึงการปรับเพิ่มค่า ft ในงวด
MARKET STRATEGY
สรุปตลาดวานนี้
SET ปิดที่ 1,593.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.06 จุด (+1.02%) มูลค่าการซื้อขาย 36,411.84 ล้านบาท มูลค่าการ ซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากเข้าใกล้สู่ช่วงวันหยุดของไทย ประกอบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ยังหยุดทำการในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน
Research Highlight: SET ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1600 ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีน-สหรัฐ
ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อจีน – สหรัฐ มี.ค.
- เช้าวันนี้มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของจีน โดย CPI ลดลงเป็น +0.7%YoY จาก +1.0%YoY ในเดือนก่อน และ PPI ชะลอตัวลง 2.5%YoY คาดจะเป็นบวกต่อภาพการลงทุนในภูมิภาค เนื่องจากเป็นการยืนยันว่าเงินเฟ้อของจีนได้ผ่านจุดพีคไปแล้ว
- ขณะที่ตลาดให้น้ำหนักกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศ 12 เม.ย. คาดว่าจะขยายตัว 5.2%YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 6%YoY ซึ่งเรามองว่าหากออกมามากกว่าคาดจะไม่น่ากระทบต่อมุมมองเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดมากนัก ซึ่งข้อมูลล่าสุดจาก Fed watch tool นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 70.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปสู่ระดับ 5.00-5.25% เมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อสหรัฐในปีนี้ที่ 4% จะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ราว 1.00 – 1.25% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับอดีต
จับตาการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารสหรัฐ
- บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/66 ในวันศุกร์นี้
- ด้านข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรหดตัวลง 5.2% ในไตรมาส 1/66 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
ตลาดตอบรับ Election rally มากยิ่งขึ้น
- ตลาดเข้าสู่ช่วง Election rally โดยกลุ่ม Consumer เริ่มปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยเฉพาะกลุ่ม Consumer Finance ที่ปรับตัวขึ้นเด่น จากแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของนโยบายหาเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ทั้งนี้เรามองว่าเป้าหมายถัดไปของ fund flow จะเข้าสู่กลุ่มค้าปลีก-อาหาร เราแนะนำสะสม MAKRO CPALL BJC CBG
- ตัวอย่างนโยบายที่กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน เช่น การเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัส เป็น 1,000 บาท/เดือน, การเพิ่มวงเงินบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท/เดือน, นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท และการปรับยืนค่าแรงขั้นต่ำเป็นต้น
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ
- 12 เม.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภค (มี.ค.) // น้ำมันดิบคงคลัง
- 13 เม.ย. รายงานการประชุมของ FOMC // ดัชนีราคาผู้ผลิต (มี.ค.)
- 14 เม.ย. ดัชนียอดขายปลีก (มี.ค.)
Investment Strategy
- ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนวรับ 1588-80 แนวต้าน 1596-1600/1612
- เข้าใกล้วันหยุดยาวทั้งของไทย อาจเห็นวอลุ่มการซื้อขายยังเบาบาง แต่ต้าน Valuation หากไม่นับ DELTA ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับภูมิภาค
- แนะนํา Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ Laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BOMS กลุ่ม Election Rally ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA กลุ่ม Defensive CHG BCH BDMS SISB RATCH GULF ADVANC
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนซึมซับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์
(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทำการ เนื่องในวันอีสเตอร์
(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ จากนักลงทุนกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบียของเฟด
หุ้นเคาะไป คุยไป..EA
- EA ปรับตัวลงกว่า 22.16% YTD ขานรับปัจจัยลบจากความกังวลของแบตเตอรี่ไฟฟ้า หลังในช่วงปลายเดือนก.พ. มีรายงานข่าวว่าเรือไฟฟ้า MINE SMART FERRY 27-29 เกิดเพลิงไหม้ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท แม้จะไม่กระทบกับปัจจัยพื้นฐานมากนัก เมื่อเทียบกับจํานวนเรือทั้งหมดที่ 30 ลำ รวมถึงล่าสุดมีเหตุไฟไหม้รถโดยสารไฟฟ้าสาย 38 แม้ว่าปัญหาจะไม่ได้เกิดจากตัวแบตเตอรี่ แต่ตลาดเกิดแรงขายแบบ panic sell จากความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของการใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าไปล่วงหน้าแล้ว จึงมองว่าราคาที่ปรับตัวลงมาถูกตลาดลงโทษมากเกินไป มองเป็นจังหวะสะสมระยะกลาง-ยาว
- ผู้บริหารตั้งเป้าการส่งมอบรถ EV ในปีนี้ จำนวน 4,000 คัน (EV bus เป้าส่งมอบ 2,000 คัน) และอยู่ในระหว่างการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่เป็น 2GWh ภายในปีนี้ และ 4GWh ภายใน 1Q67 เพื่อเตรียม ไว้สําหรับการผลิตร EV bus และ EV Truck ของบริษัท และรองรับการผลิตแบตเตอรี่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นในอนาคต ขณะที่ ประเมินรายได้รวมเติบโตกว่า 45%YoY มาที่ระดับ 4 หมื่นล้านบาท (จากปีก่อนที 2.75 หมื่นล้านบาท) ตามการทยอยส่งมอบรถ EV และ ค่า ft ที่ปรับเพิ่มขึ้นในงวด ม.ค.-เม.ย. 66 นอกจากนี้ยังผ่านการ คัดเลือกในการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของ กกพ.90 MW เป็นโครงการลมทั้งหมด
- ส่วนแนวโน้ม 1Q66 ขยายตัวเด่น YoY จากการส่งมอบ EV Bus และ EV Truck จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และไม่มีการส่งมอบรถ EV รวมถึงการปรับเพิ่มค่า ft ในงวด
