ตลาดพร้อมพักรับสงกรานต์ / 1,590-1,605
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways: ตลาดได้รับ Sentiment ทางลบ หลัง IMF ปรับลดคาดการณ์ศก.โลกปีนี้สู่ 2.8% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.9% จากผลกระทบของการใช้นโยบายการเงินเข้มงวด เพื่อสกัดเงินเฟ้อของธนาคารกลาง การทรุดตัวในภาคการเงิน การชะลอตัวของตลาดแรงงาน และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ดี คาดตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 2.24% สู่ระดับ $81.53 ต่อบาร์เรล ซึ่งได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นศก. หลังจีนเปิดเผยเงินเฟ้อต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.64 ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังเป็นแรงหนุนต่อตลาด นำโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้ ขณะที่บ่ายนี้ติดตามการประมาณการศก.ล่าสุดของธปท. ทางฝ่ายมองว่าธปท.จะเผยแนวโน้มศก.ไทยในทิศทางที่ดี/ฟื้นตัว คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดเช่นกัน ทั้งนี้การซื้อขายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่ SET จะปิดทำการเป็น เวลา 4 วัน คาด Volume เบาบางต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ให้ระมัดระวังแรงเทขายของนักลงทุนเพื่อปิดความเสี่ยงก่อนที่สหรัฐฯ จะรายงาน CPI (ตลาดคาดขยายตัว 5.2% y-y จาก 6.0% y-y ในเดือนก.พ.) และ Core CPI (ตลาดคาดขยายตัว 5.6% y-y จาก 5.5% y-y ในเดือนก.พ.) เดือนมี.ค. ในคืนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขศก.สำคัญที่จะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, AU, CPALL, CPN, CRC, ERW, ICHI, MTC, PTG, THANI 2) เก็งกำไร ก่อนขึ้น XD: BBL, KBANK, KTB, SCB 3) ประกันสังคม: BCH, CHG และ 4) ราคาน้ำมันดิบขึ้น: BCP, PTTEP, TOP
ปัจจัยบวก
- ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมี.ค.ที่ 53.8 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และสูงสุดในรอบ 37 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63 หลังผู้บริโภครู้สึกว่าศก. เริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน
- บอร์ดสปส.มีมติเห็นชอบเมื่อ 10 เม.ย. กําหนดอัตราค่าบริการเหมาจ่ายแก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในอัตรา 1,808 จากเดิม 1,640 บาท/ผู้ประกันตน/ปี ตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 เป็นต้นไป
- ชินหัวรายงานว่าสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยยอดขายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น 9.7% y-y สู่ 2.45 ล้านคัน ในเดือนมี.ค.
- เฟดแอตแลนตาเผยแบบจำลอง GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าศก.สหรัฐฯ ขยายตัว 2.2% ใน 1Q66 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5%
ปัจจัยลบ
- รอยเตอร์รายงานว่า BofA เผยศก.สหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะหดตัวใน 2Q66 ตามข้อมูลศก.ล่าสุดที่บอกเป็นนัยว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดกำลังทําให้ศก.ชะลอตัวลง
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ในผลสำรวจที่จัดทําโดย FactSet ว่า กลุ่มบริษัทบนดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯจะรายงาน กําไรลดลง 6.8% y-y ใน 1Q66 โดยจะถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปรับลดลงกว่า 30% y-y ใน 2Q63 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด 19
- ปธน.ใต้หวันเผยการซ้อมรบของจีนได้บ่อนท่าลายเสถียรภาพในไต้หวันและภูมิภาค และถือเป็นท่าทีที่ไม่มีความรับผิดชอบของจีน
PICKS OF THE DAY
BBL BUY
- เป้าหมาย 160.00/ 163.00 แนวรับ 154.00/155.00
- ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย: เมื่อ 11 เม.ย. 66 BBLประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ โดย MRR +0.05% สู่ 6.85%, MOR +0.20% สู่ 7.10%ต่อปี ทางฝ่ายมองเป็นผลบวกต่อ NIM และ Spread ที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มในส่วนของเงินฝากด้วยก็ตาม
- แบงก์ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว: ภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งในและจากต่างประเทศ ช่วยหนุนภาพสินเชื่อช่วงเดือน มี.ค. 66 เป็นต้นไปทยอยฟื้นตัว สำหรับงวด 1Q66 ทางฝ่ายคาดกำไร BBL จะอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท (+6.5%y-y,+0.1%q-q)
AU BUY
- เป้าหมาย 11.30/11.60 แนวรับ 10.50/10.70
- รับธีมอากาศร้อนและท่องเที่ยว: นอกจากผลบวกธีมอากาศร้อนแล้ว การเปิดเมืองเปิดประเทศต้อนรับ นทท. ต่างชาติที่มากขึ้น และนำมาซึ่งการปรับเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้ในหลายๆ สำนัก คาดส่งผลดีต่อผลดำเนินงาน AU ที่จะได้ประโยชน์จากสินค้าที่เป็นที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะล่าสุดกับเมนูใหม่จาก “มะยงชิด” ได้แก่ คากิโกริมะยงชิดพรักเกลือ และ คากิโกริมะยงชิดข้าวเหนียวมูน ที่ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมาก
- ปี 66 คาดเติบโตเด่นต่อจากปี 65: ด้วยแรงหนุนที่ดีต่อเนื่องจาก นทท. ตั้งแต่ต้นปี รวมถึงการขยายสาขาควบคู่กับการออกสินค้าใหม่ เบื้องต้นคาดช่วยหนุนผลดำเนินงานปี 66 นี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะสดใสกว่าปี 65 ที่ยังมีผลกระทบจาก COVID-19
- Advertisement -
