บล.บัวหลวง:

Commerce – ยอดขายสาขาเดิมแข็งแกร่ง มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงบน (OVERWEIGHT)

นักท่องเที่ยวต่างชาติและโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” จะหนุนให้ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่รายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/66 เมื่อมองไปข้างหน้า CPN และ CPALL จะโดดเด่นกว่ากลุ่มในไตรมาส 1/66 จากการเติบโตของกำไร ซึ่งจะคงอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2/66

แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 1/66 ยังคงแข็งแกร่ง

จากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เราให้คำแนะนำ เราคาดว่า CRC และ MAKRO (ธุรกิจขายส่ง) จะเป็นผู้นำการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่ระดับเกิน 10% ซึ่งหนุนจากธุรกิจแฟชั่นของ CRC (ทั้งในประเทศไทยและอิตาลี) และการใช้จ่ายที่ดีขึ้นของ MAKRO จากลูกค้า HoReCa ด้วยจํานวนลูกค้าเข้าร้านค้าที่มากขึ้น และบิลในร้านค้าที่แข็งแกร่ง เราคาดว่า CPALL จะรายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่ 9.5% ในไตรมาส 1/66 แม้จะมีฐานที่สูงในปีที่ผ่านมา  นอกจากนี้ในฐานะผู้ได้ประโยชน์จากโครงการ “ช้อปช่วยชาติ” และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวของเมืองในแหล่งท่องเที่ยว เราคาด CPN จะรายงานส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง 10% YoY นอกจากนี้ COM7 น่าจะรายงานการเติบโตของยอดขาย มากกว่า 10-15% YoY และ HMPRO จะรายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่ 5%

ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว เราคาดการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของ Big C จะอยู่ที่ 2-3% ขณะที่ Lotus’s เราคาดที่ 1.5% ในไตรมาส 1/66 เราคาดยอดขายสาขาเดิมของ GLOBAL จะลดลง 8-9% และ DOHOME ลดลง 12-13% เนื่องจากฐานราคาเหล็กที่สูง อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีผลกระทบจากราคาเหล็ก แต่ทั้ง GLOBAL และ DOHOME ก็ยังน่าจะรายงานยอดขายสาขาเดิมที่ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ (ซึ่งได้รับผลกระทบจากฐานที่สูงของปีที่แล้ว การกลับไปหางานในเมืองใหญ่ และน้ำท่วมในเดือน พ.ย. 2565)

วันหยุด การเลือกตั้ง และการที่ค่าไฟลดลง – ปัจจัยบวกในไตรมาส 2/66?

แม้ว่าสำหรับค้าปลีกหลายตัวอาจเห็นไตรมาส 2 ชะลอตัวตามฤดูกาล (เทียบกับไตรมาส 1) แต่เรามองว่าวันหยุดยาว การเลือกตั้ง และการลดราคาไฟฟ้า จะหนุนอัตรากําไรในไตรมาส 2/66 ส่วนในไตรมาส 1/66 แม้ผู้ค้าปลีกหลายรายอาจรายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่แข็งแกร่ง แต่เรามองว่าการขึ้นค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่สูง (เพิ่มขึ้น 41% YoY และ 13% QoQ และคิดเป็นประมาณ 1.5-2% ของยอดค้าปลีก) จะนำไปสู่แรงกดดันด้านลบต่อ EBIT margin สําหรับร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะร้านขายของชำ เช่น Lotus’s Big C และแม้แต่ 7-Eleven อย่างไรก็ตาม ขณะที่เราคาดว่าวันหยุดยาวสงกรานต์ “ไทยเที่ยวไทย” และการเลือกตั้งจะหนุนความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค เรายังคาดว่าค่าไฟจะปรับลดลง (ลดลง 12% MoM เป็น 4.77 บาท/หน่วย เริ่มในเดือนพ.ค. 2566) จะช่วยบรรเทาแรงกดดันต่ออัตรากำไร

เรายังคงชอบ CPN และ CPALL จากแนวโน้มกำไรครึ่งแรกของปี 2566 ที่แข็งแกร่ง

เราชอบ CPN และ CPALL ณ จุดน้ี เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งและมูลค่าที่สมเหตุสมผล นอกเหนือจากแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวแล้ว CPN และ CPALL จะเป็นหุ้นเพียงสองตัวในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่รายงานกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และทั้งคู่ยังคงซื้อขายต่ำกว่าระดับ PER ย้อนหลัง 10 ปี

- Advertisement -