Daily Focus: Selective and Earnings Play

2023SET Target: 1700  

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ตามคาด หลังจากผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาว ดัชนีปิดบวกได้ 7.74 จุด ณ สิ้นวัน และยืนเหนือ 1,600 จุด ได้อีกครั้ง โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่กระจายตัว ขณะที่กลุ่มธนาคารยังแข็งแรง แม้บางธนาคารจะขึ้น XD สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ อีก 298 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.4 พันลบ. (สถานะรายกลุ่มใน Index Futures ยังไม่มีนัยยะนักโดยต่างชาติ Short บางๆ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,590-1,610 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้คือตัวเลข GDP 1Q23 ของจีนที่จะประกาศเช้านี้ ตลาดคาด +4% y-y และมีแนวโน้มเร่งขึ้นต่อเนื่องใน 2Q23 ขณะที่ Bond Yield และค่าเงินดอลลาร์แกว่งตัวขึ้นสะท้อนตลาดปรับเพิ่มโอกาสเป็น 91% ที่ FED ในการประชุมเดือน พ.ค. สู่ระดับ 5-5.25% จากเดือนก่อนที่ส่วนใหญ่มองว่ามีโอกาสคงดอกเบี้ย เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงได้ต่อเนื่องสู่กรอบเป้าหมาย 2% ในระยะยาว ส่วนราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวลงจากทั้งดอลลาร์ที่แข็งรวมถึง Concern ฝั่ง Demand น้ำมันในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกที่ชะลอ ทำให้กลุ่ม Global Play คาดว่ายัง Underperform ตลาด ด้านปัจจัยในประเทศกลุ่มธนาคารจะเริ่มประกาศกำไร 1Q23 วันนี้ เริ่มด้วย TISCO ขณะที่ การหาเสียงเลือกตั้งจะคึกคักมากขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ถัดจากนี้ ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและเป็นบวกต่อ Domestic Play ให้ยังสามารถ Outperform ตลาดได้ต่อเนื่อง ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และคาดกำไร 1Q23 ออกมาแข็งแกร่ง

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่คาดมีกำไร 1Q23 แข็งแกร่ง//ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : AOT, BA, BGRIM, CPN, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : SHR

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท
  • ระยะสั้นกำไร 1Q23 คาดยังโตแข็งแรงจาก Rev Par ของไทยและมัลดีฟท์ที่โตแรง ชดเชย UK และ Outrigger ที่หดตัวจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนราคาก๊าซในยุโรปที่ปรับลงต่อเนื่องเป็นบวกต่อต้นทุน
  • คาดปี 2023 มีกำไรเร่งตัวเป็น 458 ลบ.จาก Breakeven ปีก่อน ราคาหุ้นพักตัวลง 14% จาก High ปีนี้ ทำให้ Valuation น่าสนใจโดยเทรดที่ 2023PBV 0.87 เท่า
  • แนวรับ 3.80 บาท แนวต้าน 4-4.10//4.20 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคสุทธิบางๆ US$109 ล้าน โดยทรงตัวที่เกาหลีใต้และไต้หวันหลังจากที่ไหลเข้าในสัปดาห์ก่อน แต่อาเซียนยังเห็นการไหลเข้าที่ไทยและอินโดนีเซีย US$41 ล้าน และ US$28 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มกระแสเงินทุนขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP 1Q23 จีนที่จะประกาศเช้านี้ หากออกมาฟื้นตัวแกร่งกว่าคาดมี โอกาสหนุนให้กระแสเงินทุนยังไหลเข้าได้ต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) TISCO จะประกาศกำไร 1Q23 วันนี้ ตลาดคาดที่ 1.8 พันลบ. +2% q-q และ Y-Y หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่โตตามสินเชื่อหากเทียบ y-y รวมถึงแนวโน้มการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายที่ชะลอตัว q-q แนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะถัดไปเรามองอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นคาดว่าจะกระทบ NIM บ้างจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมจะชะลอตัวตามธุรกิจตลาดทุน IAA Consensus คาดกำไรปี 2023 +4% y-y และให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 109.30 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside ไม่กว้างนัก

(0) M คาดกำไร 1Q23 ที่ 330 ลบ. +3% q-q, +20% y-y ฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินเล็กน้อย แม้ค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานจะลดลง q-q แต่มีค่าไฟที่ปรับขึ้นมาชดเชย ด้านรายได้เราคาดฟื้นตัวดีตาม SSSG ที่คาด +15.5% y-y หนุนจากการปรับขึ้นราคาขายราว 4% ในเดือน ก.พ. 23 และชดเชยราคาเป็นที่ปรับตัวขึ้นได้ ขณะที่ Gross Margin คาดทรงตัว q-q แต่ชะลอ y-y โมเมนตัม 2Q23 คาดเร่งตัวจากอานิสงส์ของ High Season การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่บวกต่อแหลมเจริญ และค่าไฟที่จะปรับลงในเดือน พ.ค. 23 ยังคงประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 2.2 พันลบ. +51% y-y และราคาเป้าหมายที่ 59 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) IRC เราคาดกำไร 2QFY23 ที่ 34 ลบ. +114% g-q, -48% y-y จากรายได้ที่คาด ฟื้นตัวเล็กน้อย +3.5% q-q แต่ −3% y-y แต่ได้แรงหนุนจากต้นทุนพลังงานที่ลดลงและการคุมค่าใช้จ่าย SG&A ที่ดี เรามองปี 2023 ยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ คาดทั้งปี 2023 ยอดขายในประเทศและส่งออกจะ -2% y-y และ –18% y-y โดยกระทบจากหนี้ครัวเรือน ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่สูง เราปรับลดประมาณการกำไร FY23 ลงเหลือ 162 ลบ. +48% y-y จากฐานต่ำปีก่อน สะท้อนแนวโน้มรายได้ที่มีความระมัดระวังมากขึ้น และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 14 บาท แนะนำเพียง “ถือ”

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100.71 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 33,987.18 จุด ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจัดทะเบียนในสัปดาห์นี้

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทรงตัว โดยนักลงทุนรอติดตามตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจัดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นสัญญาณสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ขณะที่นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมถึงตัวเลข GDP ของจีนที่จะประกาศเช้านี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมถึงความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในขณะที่เช้านี้ปรับตัวลงต่อที่ระดับ 80.72 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.14%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 2,007.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 2,007.70 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.03%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 925.70 / -2.02

 

- Advertisement -