KS Daily View 18.04.2023 >>> มูลค่าซื้อ-ขายกลับมาหลังหยุดยาว มอง SET เคลื่อนไหวแดนบวก SET คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,625 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ ITC, TU
สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้
ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.30%, S&P 500 +0.33%, และ NASDAQ 0.28% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Financials (+1.05%), Communication Services (+0.31%), Energy (+0.19%) ส่วนSector ที่underperform ได้แก่ Real estate (-1.68%), Utilities (-1.11%), Health care (-0.79%)
ในประเทศ: SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.74 จุด หรือ +0.49% ปิดที่ 1,600.41 จุด โดยหุ้นที่ปรับขึ้นแรงได้แก่ RCL (+7.77%), BYD (+6.06%), STGT (+4.95%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ปรับลงแรง ได้แก่ SCB (-3.79%), IRPC (-3.15%), SCGP (-2.23%) เป็นต้น
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,585 – 1,625 จุด มูลค่าการซื้อขายเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มมีทิศทางอ่อนค่าลง จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังตลาดมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps และค้างไว้นาน โดยอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 หลังจากเดิมมองไว้ที่ไตรมาส 3 จับตาการรายงานผลประกอบการ 1Q23 นำโดย TISCO น่าจะรายงานงบวันนี้ และกลุ่ม Financial อื่นอย่าง KTC, TTB, BBL, KKP, KBANK, และ SCB ที่จะทยอยประกาศงบออกมา ทั้งนี้คาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะรายงานกำไร 1Q23 โต QoQ และ YoY โดยตัวที่กำไรโตเด่นได้แก่ KTB และ BBL ขณะที่ภาพใหญ่นักลงทุนจะยังรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจโลก (Soft Landing/Recession/Stagflation) และผลการเลือกตั้งทั่วไปของไทยในวันที่ 14 พ.ค. โดยเริ่มเห็นการเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่ม Quality Growth บนแรงหนุนจากโอกาสที่ดอกเบี้ยใกล้จุดพีค กลุ่ม Finance ซึ่งได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ กลุ่มพลังงานต้นน้ำจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และกลุ่มที่คาดว่ากำไร 1Q23 จะออกมาดีและแนวโน้มดีต่อใน 2Q23 เป็นต้น ในเชิงกลยุทธ์ทาง KS ยังแนะนำผสานการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Quality growth , Defensive, และกลุ่มพลังงาน ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ประกาศเปิดตัวบัญชีเงินฝากสำหรับผู้ถือบัตร Apple Card โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 4.15% ต่อปี ทั้งนี้ Apple Card เป็นบัตรเครดิตของบริษัทแอปเปิ้ล และออกโดยธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เพื่อใช้กับ Apple Pay บนอุปกรณ์แอปเปิ้ล เช่น iPhone, iPad, Apple Watch หรือ Mac นอกจากนี้ บัญชีเงินฝากดังกล่าวก็เกิดจากความร่วมมือระหว่างแอปเปิ้ลและโกลด์แมน แซคส์เช่นกัน โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียม หรือกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ ซึ่งผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีดังกล่าวจากแอปพลิเคชัน Wallet บนเครื่อง iPhone
2.) GDPNow ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 1/2566 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.2%
3.) องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นไวรัสที่ต้องจับตามอง หลังพบการแพร่ระบาดใน 29 ประเทศ โดยอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในอินเดีย WHO ระบุว่า ผลการศึกษาพบว่า ไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.16 มีอัตราการขยายตัวที่มากกว่าสายพันธุ์ XBB.1.5 แต่มีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันเท่ากับสายพันธุ์ XBB.1.5
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
1.) หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนหรือทิศทางผลประกอบเติบโต (Quality Growth) ได้แก่
1.1) KTC ราคาพื้นฐาน 62 บาท คาดกำไร 1Q23 ที่ 1.79 พันลย. (+7% QoQ และ +2% YoY) จาก credit cost ที่ลดลง และสินเชื่อเติบโต 13% YoY vs. เป้าหมายที่ 15% YoY หนุนโดยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้น รวมถึงธุรกิจใหม่อย่างสินเชื่อจำนำทะเบียน
1.2) CHAYO ราคาพื้นฐาน 10.10 บาท จากแนวโน้ม cash collection ที่ดีต่อเนื่องใน 1Q23 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่คาดว่ากำไรปี 2023 จะโต 50% YoY เป็น 451 ลบ.หนุนจากการขายทรัพย์ชิ้นใหญ่
1.3) AMATA ราคาพื้นฐาน 26.50 บาท คาดกำไรปกติปี 2023 เติบโต 11% YoY เป็น 1.65 พันลบ. ขณะที่ AMATA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้โต 50% YoY เป็น 2,250 ไร่หนุนจากการย้ายฐาน และความเชื่อมั่นภาคเอกชนฟื้นตัวหลังเลือกตั้งกลางปี
2.) กลุ่ม Defensive ที่จะช่วยลดความผันผวน/ความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนรวม แนะนำ
2.1) AOT ราคาพื้นฐาน 73.50 บาท มีค่า beta 0.7x ได้ประโยชน์จากแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่คาดว่าเร่งตัวขึ้นใน 2Q23 โดยเฉพาะจากกลุ่มทัวร์จีนหลังจำนวน flight บินมากขึ้นและตั๋วถูกลง
2.2) CK ราคาพื้นฐาน 33.34 บาท มีค่า beta 0.5x คาดงานโครงการรัฐฟื้นตัวหลังเลือกตั้งกลางปี รอรถไฟฟ้าสายสีส้มอนุมัติ หนุน upsides มากกว่า 50% จาก backlog ปี 66 ที่ = 5.3 เท่า ของปี 62 และสูงสุดเป็นประวัติการณ์, กำไรปกติปี 66/67 = 1.8/7.3 เท่า และ MV/EV ปัจจุบันอยู่ที่ 1.16/1.27 เท่า นอกจากนี้ด้วยโมเมนตัมกำไรที่ดี และรายได้จากบริษัทในเครือที่สูงขึ้น ทำให้คาดว่าหุ้นจะเทรดด้วย holding discount ที่ลดลง
2.3) BBL ราคาพื้นฐาน 180 บาท มีค่า beta 0.8x คาดกำไร 1Q23 ที่ 8.8 พันลบ เติบโต 16.5%QoQ และ 24% YoY มองได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และส่วนต่างดอกเบี้ยที่ขยายตัวต่อจากคาดการณ์ กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps. ในเดือน พ.ค.
3.) กลุ่มพลังงาน แนะนำ PTTEP ราคาพื้นฐาน 172 บาท เพื่อ hedge กับทิศทางราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ U$90/bbl
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- ITC (ราคาพื้นฐาน 40.20 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาราว 25% จากการคาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 1/2566 จะลดลง โดยเรามองว่าจะอยู่ที่ 514 ล้านบาท (-41% YoY, -45% QoQ) และมีแรงซื้อกลับเมื่อวานนี้ จากการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นผลบวกต่อธุรกิจส่งออก และยอดค้าปลีกของอาหารสัตว์ในสหรัฐเดือนมี.ค.ดีขึ้น 12% MoM, 3% YoY
- TU (ราคาพื้นฐาน 20.30 บาท) ราคาหุ้นปรับลดลงมาราว 27% จากการคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/2566 จะลดลง โดยเรามองว่าจะอยู่ที่ 981 ล้านบาท (-44% YoY, -21% QoQ) และมีแรงซื้อกลับเมื่อวานนี้ จากการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นผลบวกต่อธุรกิจส่งออก ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของ TU มาจากการส่งออก
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันอังคาร ติดตาม GDP 1Q23 ของจีน คาด +2.2% QoQ และ +4% YoY (เทียบไตรมาสก่อนที่ +2.9% YoY) ตัวเลข Retail sales ของจีนเดือน มี.ค. คาด +4.5% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +3.5% YoY) ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน เดือน มี.ค. คาด +2.7% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +2.4% YoY) ตัวเลข Fixed asset investment ของจีนใน 1Q23 คาด 5.3% YoY ตัวเลข Zew Economic sentiment index ของเยอรมัน เดือน เม.ย. คาด 15.1 จุด (+16% MoM) ตัวเลข Building Permits ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 1.45mn (-6% MoM) ตัวเลข Housing starts ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 1.4mn (-1% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Bowman
- วันพุธ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษ เดือน มี.ค. คาด +9.8% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 10.4% YoY) และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่น เดือน มี.ค. คาด +2.6% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 6.5% YoY) ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นเดือน มี.ค. คาด -Y1295bn (เทียบเดือนก่อนที่ -Y898bn) ตัวเลข Loan Prime Rate ของจีน 1 ปี และ 5 ปี คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ ตัวเลข PPI เดือน มี.ค. ของเยอรมัน คาด -0.4% MoM และ +9.9% YoY (ลดลงจาก +15.8% YoY เดือนก่อน) ตัวเลข Consumer Confidence Flash ของยูโรโซนเดือน เม.ย. คาด -18.5 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -19.2 จุด) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +240K (เทียบสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +239K) ตัวเลข Existing home sales ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 4.4mn (-4.2% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Waller
- วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน มี.ค. คาด 3.2% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 3.3% YoY) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน มี.ค. คาด +3.1% YoY (ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า) ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน มี.ค. คาด -0.5% MoM และ -3.1% YoY ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมัน เดือน เม.ย. คาด 45.6 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 44.7 จุด) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยูโรโซน เดือน เม.ย. คาด 48 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 47.3 จุด) S&P Global Service PMI Flash ของยูโรโซน เดือน เม.ย. คาด 54.5 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 54 จุด) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 49 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 49.2 จุด) S&P Global Service PMI Flash ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 51.5 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด) และถ้อยแถลงของ Fed Cook