ASL ANALYSIS GUIDE

ประเมิน SET Index ยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้มั่นคง Downside risk เริ่มจำกัด

ประเด็นการลงทุน
1. US bond yield ปรับตัวขึ้น และ Dollar index กลับมาแข็งค่าระยะสั้น
2. ตลท. เตรียมนำ LTF กลับมาอีกครั้ง
3. TISCO รายงานงบ 1Q

วันนี้เคาะ GUNKUL ในเชิง valuation ราคาปรับตัวลงแรงกว่า 24.2%YTDใประเมินว่าตลาดได้ price in ปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้: SETI ปิดที่ 1,600.41 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 46,725.22 ล้านบาท เม็ดเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชียหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามตลาดคาด โดยเริ่มเห็นการชะลอลง ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเริ่มชะลอลงตามไปด้วย

Research Highlight: SET ยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้มั่นคง downside risk เริ่มจำกัด

US bond yield ปรับตัวขึ้น และ Dollar index กลับมาแข็งค่าระยะสั้น

    • มีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่เพิ่มขึ้น และดัชนีภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กออกมาดีเกินคาด ทําให้ Dollar index กลับมาแข็งค่า และ US bond yield ดีดตัวขึ้น สะท้อนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น สอดคล้องกับข้อมูล FedWatch Toot ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 23 พ.ค. ซึ่งประเมินว่าเป็นระดับสูงที่สุดแล้ว สะท้อนความเห็นต่อดอกเบี้ยของตลาดไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
    • ตลาดจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟตเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย และรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เทสลา และเน็ตฟลิกซ์

ตลท. เตรียมนำ LTF กลับมาอีกครั้ง

    • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กำลังเตรียมผลักดันกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ต่อกระทรวงการคลังอีกครั้ง หลังจากการเลือกตั้งและจัดตั้ง ครม. ชุดใหม่ แล้วเสร็จช่วงเดือนส.ค. ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดหลักทรัพย์
    • มองเป็นบวกต่อ SET ในระยะกลางยาว โดยเรามองว่าจะได้แรงหนุนจากนักลงทุนสถาบัน หลัง YTD ชื้อสุทธิไป 4.56 พันล้านบาท ขณะที่ fund flow จากต่างชาติ YTD ขายสุทธิ 5.55 หมื่นล้านบาท แต่ MTD กลับมาซื้อสุทธิกว่า 1.3 พันล้านบาท สอดคล้องกับภูมิภาคที่เริ่มเห็น flow ที่ไหลเข้า จากการเข้าใกล้ปลายทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว
    • ในเชิงกลยุทธ์มองเป็นบวกต่อหุ้น big cap. ที่ยัง laggard อยู่

ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ

    • 18 เม.ย. GDP1Q66 จีน คาดการณ์ ขยายตัว 4% YoY // TISCO รายงานงบ 1Q
    • 19 เม.ย. CPI (มี.ค.) EU
    • 21 เม.ย. ประมาณการ Manufacturing PMI (เม.ย.) EU

Investment Strategy  

    • ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway up หลังยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้มั่นคง ประเมิน downside risk เริ่มจํากัด ลุ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1612 แนวรับ 1600/1592
    • ในเชิง valuation ดัชนี SET ซื้อขายบน forward PE ที่ระดับ 15.5 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี มองว่าดัชนีที่ระดับ1,600 จุด เป็นจังหวะพิจารณาสะสมระยะกลาง-ยาว ทั้งนี้เราคาดว่า กนง. จะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 2.00% ตามภาวะเงินเฟ้อที่มีความเสี่ยงจากแรงกดดันฝั่งอุปสงค์ ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่ fund flow ประเมินว่าแรงขายจะเริ่มชะลอตัวลง จากแรงหนุนของผลประกอบการ บจ. แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และจิตวิทยาจากการเลือกตั้ง
    • แนะนำ Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ Laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BDMS หุ้น Election Rally ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA และ China reopening AOT WHA AMATA CENTEL ERW SISB SNNP TKN

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

(0) ตลาดหุ้นยุโรป แกว่งตัวไร้ทิศทาง ขณะนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟด อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟดเป็นปัจจัยกดดันตลาด

หุ้นเคาะไป คุยไป..GUNKUL

  • GUNKUL ได้รับการคัดเลือกโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 832 MW จากทั้งหมดที่ 5,203 MW ซึ่งจะเริ่ม SCOD ได้ตั้งแต่ปี 69-73 เป็นต้นไป โดยในวันที่ 19 เม.ย. นี้ จะเข้ารับทราบเงื่อนไทในการลงนาม PPA ขณะที่ยังมีโอกาสได้โครงการเพิ่มของเฟสถัดไปที่ กพช. จะรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มอีก 3,668.5 MW
  • นอกจากนี้ เตรียม spin-off บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ในช่วง 4Q66 จากปัจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้กว่า 5,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีงานประมูลงานใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อมาสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มมากขึ้น
  • ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ขยายตัว 15% เติบโตทั้งธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานและเทคโนโลยี ธุรกิจผลิตและจําหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านการบริการก่อสร้างครบวงจร โดยได้เตรียมการประมูลจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 ซึ่งคาดว่าจะชนะการประมูลหลายโครงการ ส่งผลให้บริษัทมี portfolio เมกะวัตต์รวมเติบโตตามเป้า 1,000 เมกะวัตต์
  • ในเชิง valuation ราคาปรับตัวลงแรงกว่า 24.2%YTD ประเมินว่าตลาดได้ price in ปัจยลบจาก 1. การรับรู้รายได้ของ wind farm ที่ได้ไป JV กับ GULF ลดลงตามสัดส่วนที่ถือ 2. ประเด็นที่ศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมาพิพากษาเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวน 32 แปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ตั้งโครงการวายุวินด์ฟาร์ม ซึ่ง ปัจจุบันคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด โดยทางบริษัทจะใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป 3. ปรับตัวลงตามตลาดและภูมิภาคทั่วโลกจากความกังวลวิกฤตภาคธนาคาร ซึ่งระดับราคาดังกล่าวสะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว และ 4. ตลาดเริ่มปรับลดประมาณการธุรกิจกัญชง-กัญชาออกแล้ว หากมีพัฒนาการที่เป็นบวกต่ออุตสาหกรรม จะเป็นอีก catalyst ที่จะหนุนราคาให้ปรับตัวขึ้น
- Advertisement -