บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +25.8%
Close Apr 19, 2023 Price 16.70
12M Target 21.00
KRUNG THAI BANK (KTB) PPOP เติบโตอย่างแข็งแรง จาก NIM ที่ขยายตัวได้ดี
Earnings Results
- KTB รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 จำนวน 10,067 ลบ. โต 14.6%YoY และ 24.1%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 14%
- แม้มีปัจจัยกดดันจากการตั้งสำรองที่ปรับขึ้น 7.6%QoQ ตามนโยบายตั้งสำรองเชิงระมัดระวัง ขณะที่ระดับ NPL ยังทรงตัวที่ 3.9% ใกล้เคียงกับ 4Q65 และมีระดับ Coverage Ratio ที่ 177.1% เพิ่มขึ้นจาก 172.5% ใน 4Q65 สะท้อนว่าคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อโดยรวมของ KTB ยังแข็งแรง และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นเป็นการตั้งสำรองเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อของบริษัทที่จะหันไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงขึ้น
- ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 3.9%QoQ เนื่องจากรายได้หนี้สูญรับคืนลดลง แต่บางส่วนถูกชดเชยด้วยรายได้ค่าธรรมเนียมปรับสุทธิปรับขึ้น 1.3%QoQ และมีกำไรจากการตีมูลค่าเงินลงทุนผ่านงบกำไรขาดทุนเพิ่มขึ้น 17.1%QoQ
- ทั้งนี้กำไรก่อนการตั้งสำรองและหักภาษี (PPOP) ของ KTB โต 14.1%QoQ ดีกว่าคาด หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่โต 4.1%QoQ หลัง NIM ขยับขึ้นเป็น 3.0% จาก 2.8% ใน 4Q65 แม้จะมีผลกระทบจากต้นทุนเงินฝากประจำที่ปรับขึ้น และเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ที่กลับสู่ระดับปกติเป็นไตรมาสแรก แต่ถูกชดเชยด้วย Asset Yield ที่เร่งตัวขึ้นได้ดีเป็น 3.9% จาก 3.6% ใน 4Q65 สะท้อนความสามารถในการปรับดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อส่งผ่านต้นทุนให้กับลูกค้า และเป็นผลจากการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น นอกจากนี้พบว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 13%QoQ หลังบันทึกค่าใช้จ่ายปรับปรุงระบบ IT น้อยลงจาก 4Q65
Our Take
- กำไรสุทธิ 1Q66 คิดเป็น 27.6% ของประมาณการทั้งปี และคาดแนวโน้มกำไรสุทธิใน 2Q66 มีโอกาสเร่งตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ รับผลบวกจากการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่การเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเงินฝากยังเป็นเพียงการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ทำให้ NIM ของ KTB จะขยายตัวได้ต่อ นอกจากนี้เรามองว่าความต้องการสินเชื่อของลูกหนี้รายย่อยจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังบริษัทปรับกลยุทธ์มารุกขยายสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อ Digital ผ่านช่องทาง Digital Platform ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับ “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ได้ง่าย ทำให้มีโอกาสที่ฐานลูกค้า Digital Platform จะขยายตัวได้ดีขึ้น
- การตั้งสำรองคาดทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับ 1Q66 เนื่องจากบริษัทหันมาขยายสินเชื่อกลุ่มที่มี ความเสี่ยงสูง ทำให้ต้องเพิ่มการตั้งสำรองมากขึ้นจากในอดีต แต่เรามองว่า KTB สามารถบริหารจัดการ NPL ได้ดี ทำให้ความเสี่ยงที่จะตั้งสำรองมากกว่าคาดไม่สูงนัก
- สำหรับทั้งปี 2566 เราคาด KTB จะมีกำไรสุทธิ 36,446 ลบ. โต 8.2%YoY ตามประมาณการเดิม
- เราชอบ KTB จากพัฒนาการทางธุรกิจที่มีความน่าสนใจมากขึ้น หลังรุกขยายสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูงและการใช้ประโยชน์จาก Synergy กับบริษัทในเครือมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพเติบโตในระยะยาว ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นมี Upside 25.8% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 21 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 0.7x) และคาดมีปันผลอีกหุ้นละ 0.78 บาท คิดเป็น Div. Yield 4.7% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”