มีแต่ปัจจัยลบกดตลาด / 1,555-1,570
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- มีแต่ปัจจัยลบกดตลาด: คาด SET Index เช้านี้มีโอกาสปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปเมื่อคืนนี้ หลังถูกกดดันจาก Tesla ที่งบออกมาน่าผิดหวัง และฉุดหุ้นกลุ่มยานยนต์ตัวอื่นๆ ลงมา หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะยังคงใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาต่อไป นอกจากนี้ตลาดรับแรงกดดันจากตัวเลขศก.สหรัฐที่แย่กว่าคาดอย่าง จน.ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้น 245k มากกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 240k และดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย เดือน เม.ย.อยู่ที่ -31.3 แย่กว่าคาดที่ -19.3 และลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 แม้จะเป็นสัญญาณบวกต่อการชะลอขึ้นดอกเบี้ย หากแต่คาดไม่เพียงพอโน้มน้าวใจ เฟดได้สะท้อนจากความเห็นของเฟดที่ยังหนุนการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ และสอดรับกับ CME FedWatch Tool ที่ยังให้ความน่าจะเป็นสูงถึง 84.5% ในการขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ส่วนในประเทศ แม้งบกลุ่มแบงก์ที่ทยอยออกมาส่วนใหญ่ยังดี แต่ไม่ Surprise ตลาดเก่า กรณี STARK ที่เป็น Sentiment ลบต่อตลาด กอปรกับแรงขายของต่างชาติที่มีต่อเนื่อง ขณะที่สัปดาห์หน้าต้องติดตามกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังถูกเอกชนเรียกร้องลดค่าไฟ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างพิจารณาค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค. 66 ขณะที่วันนี้จะมีการประชุมอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ คาดเป็นลบต่อเนื่องต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า และมองบวกต่อผู้ใช้ไฟเยอะ เช่น ค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร นอกจากนี้ จับตา GDP 1Q66 และ Core PCE ของสหรัฐฯ, ผลประชุมของ BOJ และรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยจาก ธปท.
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AP, BBL, BJC, CPALL, CENTEL, ERW, ILM, KTB, SPALI 2) เก็งงบ 1Q66: AOT (2Q66), BEM, SAWAD, SAPPE 3) ความหวังศก.จีนฟื้น: SISB, SNNP และ 4) โรงพยาบาล: BH, EKH, PR9
ปัจจัยบวก
- เอกชนลุ้น กกพ. ขยับเตรียมประชุมทบทวนค่า Ft งวด 2/66 คาดสรุปวันที่ 26 เม.ย. 66 ทั้งนี้ภาคเอกชนเสนอ ขอค่าไฟต่ำกว่า 4.40 บาท/Kwh จากล่าสุดที่ 4.77 บาท/Kwh เพื่อลดภาระให้ครัวเรือนที่มีภาระค่าครองชีพ สูง และภาคธุรกิจในช่วงที่ต้องแข่งขันในเวทีโลก
- สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) เผย เที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 หลังเปิดประเทศ โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศที่มีเที่ยวบินมาจีนมากที่สุด
- บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย ด้วยเงินลงทุน 9,800 ลบ. โดยถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ แห่งแรกนอกประเทศจีน
ปัจจัยลบ
- สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับคาดการณ์จีดีพีไทย 66 เหลือ 4.3% จากคาดการณ์เบื่อเดือน ธ.ค. 65 ที่ 4.5% สะท้อนตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต่ำกว่าคาด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงไม่สดใส และโอกาสที่จะมี ความล่าช้าในการดำเนินนโยบายอันเนื่องมาจากเลือกตั้ง
- Deutsche Bank วางแผนลดจำนวนสมาชิกฝ่ายผู้บริหารลงจาก 10 คน เหลือ 9 คน และเตรียมลดตำแหน่งงานในโครงสร้างพื้นฐานและกิจการธนาคารเอกชนลง เพื่อลดค่าใช้จ่าย หลังเบื่อเทียบธนาคารอื่นๆ ในยุโรป ดอยซ์แบงก์ ยังมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับรายได้
- ปธน. ไบเดน เตรียมลงนามคำสั่งควบคุมการลงทุนในเชมิคอนดักเตอร์ AI และควอนตัมคอมพิวเตอร์ในจีนก่อน ประชุม G7 เดือนหน้า
PICKS OF THE DAY
AOT BUY
- เป้าหมาย 73.25/75.25 แนวรับ 70.75/71.75
- คาด 2Q66 กำไรดีขึ้น q-q, y-y: การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและจีนกลับมาเปิดประเทศ ทำให้ 1Q66 นทท. อยู่ที่ 6.47 ล้านคน โตขึ้น y-y, q-q ทำให้ผู้ใช้สนามบิน AOT +196% และเที่ยวบิน +80% y-y คาดจะมีกำไรที่ 1,504 ลบ +146% y-y, +339% q-q
- แนวโน้ม นทท. จะเริ่งตัวเพิ่มมากขึ้น: ไทยเป็นจุดหมายหลักของ นทท. จีน ซึ่ง 1Q66 นทท. จีนเดินทางเข้ามาที่ 0.52 ล้านคน เมื่อเทียบกับทั้งปีที่คาด 7-8 ล้านคน จะเห็นการเร่งตัวขึ้นของ นทท.จีน รวมถึง นทท. ชาติอื่นๆ จากทั้งปีคาด นทท. ไว้ที่ 30 ล้านคน อีกทั้ง AOT หมดมาตรการช่วยเหลือผู้ ประกอบการไปเมื่อ 31 มี.ค. ทำให้ราย ได้จะกลับมาสู่ภาวะปกติ รวมถึงการฟื้นตัวของผลกำไรที่จะมีต่อเนื่อง
AP BUY
- เป้าหมาย 12.80/13.10 แนวรับ 12.00/12.20
- เร่งเครื่องได้ตั้งแต่ต้นปี: 1Q66 แม้ยังเปิดโครงการใหม่ยังน้อย 5%ของมูลค่าโครงการทั้งปี แต่ทำ Presale ได้ที่ 11,016 ลบ. คิดเป็น 19% ของเป้าทั้งปี, คาดว่าจะทำตามเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 58,000 ลบ. ได้ไม่ยาก และ 1Q66 ยังมีคอนโดครบกำหนดโอน 2 โครงการ จะช่วยดันผลประกอบการเร่งตัวได้สวนทาง Developer หลายรายที่มีแนวโน้มชลอในไตรมาสแรก
- ปันผลสูง: XD 9 พ.ค. 66 ที่ 0.65 บาท/หุ้น ด้วยการประกาศจ่ายปันผลปีละครั้งทำให้ได้รับ div yield ที่สูง ทำให้ AP เป็นหุ้นที่น่าสนใจทั้ง yield และผลประกอบการ ในเวลานี้