บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +38.1%

Close Apr 20, 2023 Price (THB) 31.50

12M Target (THB) 43.50 

Previous Target (THB) 43.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 1Q66 ที่ 529 ล้านบาท ลดลง 78% QoQ กดดันจากโรงแรมในยุโรปที่เข้าสู่ช่วง Low Season แต่ฟื้นตัวเด่น YoY จากฐานต่ำที่รายงานขาดทุน 3.6 พันล้านบาทใน 1Q65
  • แนวโน้ม 2Q66 คาดกําไรปกติฟื้นตัว QoQ หลังโรงแรมในยุโรปเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่เทียบ YoY คาดกําไรปกติยังเติบโตได้

Our view

  • เราคงมุมมองบวกต่อภาพการฟื้นตัวของผลประกอบการ MINT ในปี 2566 ทำให้เราคงประมาณการ คาดกำไรปกติปี 2566-2567 ที่ 6.4 พันล้านบาท (+219% YoY) และ 8.4 พันล้านบาท (+31% YoY) ตามลำดับ
  • คงคำแนะนํา “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสิ้นปี 2566 ที่ 43.50 บาทต่อหุ้น
  • เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนอาจใช้จังหวะหลังรายงานงบ 1Q66 ในการสะสม

MINOR INTERNATIONAL รอสะสมหลังรายงานผลประกอบการ 1Q66

คาดผลประกอบการ 1Q66 เติบโตเด่น YoY แต่อ่อนแอ QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล

คาด 1Q66 รายงานกำไรปกติที่ 529 ล้านบาท ลดลง 77.8% QoQ กดดันจากโรงแรมในยุโรปที่เข้าสู่ช่วง Low Season แต่คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวเด่น YoY จากรายงานขาดทุนที่ 3.6 พันล้านบาท เพราะการระบาดโอไมครอนและการเปิดประเทศที่ยังไม่เต็มศักยภาพ สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) ธุรกิจโรงแรม คาดรายได้ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท (-16.1% QoQ, +71.3% YoY) คาด Occ. Rate เฉลี่ยทั้งกลุ่มที่ 60% เทียบกับ 64% ใน 4Q65 และ ADR เฉลี่ย -6% QoQ ลดลงจากปัจจัยด้านฤดูกาลของโรงแรมในยุโรป (70% ของรายได้กลุ่มโรงแรม) เข้า Low Season ขณะที่ RevPar เฉลี่ยเราคาดเติบโตราว 14% เทียบกับ 1Q62 สะท้อนกลยุทธ์การปรับขึ้น ADR ที่ยังทำได้ต่อเนื่อง คาด ADR +25% เทียบ 1Q62

2) ธุรกิจอาหาร คาดรายได้ที่ 7.2 พันล้านบาท (+4.2% QoQ, +18.0% YoY) คาด SSSG เฉลี่ยที่ +12% YoY ตลาดในไทยยังโตได้ต่อเนื่อง ตลาดออสเตรเลียเติบโตเด่นจากฐานต่ำ ขณะที่ตลาดในจีน SSSG กลับมารายงานเป็นบวกแล้ว หลังจากผ่อนคลายนโยบาย Lockdown เมื่อต้นปี 2566

3) SG&A คาด 1.1 หมื่นล้านบาท (-7.1% QoQ, -22.9% YoY) SG&Asales คาดที่ 36% ใกล้เคียง 4Q65

แนวโน้ม 2Q66 คาดเติบโตเด่น QoQ และเติบโต YoY ได้แม้จะเริ่มเจอฐานสูง

หากกำไรปกติ 1Q66 ออกมาตามคาดจะคิดเป็น 8% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเราที่ 6.4 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี แนวโน้ม 2Q66 เราคาดผลประกอบการจะฟื้นตัวเด่น QoQ หนุนจากโรงแรมในยุโรปหรือ NHHOTEL จะเริ่มเข้าสู่ High Season และหากเทียบ YoY แม้จะเริ่มเจอฐานสูงเพราะผลของการเปิดประเทศเต็มตัวในยุโรปตั้งแต่ 2Q65 แต่อิงตัวเลขข้อมูลการจองเข้าพักล่วงหน้าในระยะ 2 เดือนหน้าจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นการเดินทางจากลูกค้ากลุ่ม Leisure ที่แข็งแกร่ง และจำนวนกลุ่มลูกค้า Corporate เติบโตดี YoY ทำให้เราคาดผลประกอบการจะมีโอกาสเติบโต YoY ไม่ยาก และใน 2H66 คาด MINT จะได้แรงส่งจากการฟื้นตัวเด่นของโรงแรมในไทยและธุรกิจอาหารในจีนที่ส่งสัญญานดีขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นแนวโน้มกำไรของ MINT มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง QoQ ทำให้ประมาณการทั้งปี 2566 ของเรายังสมเหตุสมผล

ยังคงมุมมองปี 2566 เป็นปีที่ผลประกอบการคาดฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ MINT ในปี 2566 ทั้งในแง่การเติบโตของรายได้ 1) ธุรกิจโรงแรมคาดเห็นการเพิ่มขึ้นของ Occ. Rate และปรับ ADR ขึ้นได้ต่อในทุกตลาดโรงแรมในยุโรปแม้ เผชิญฐานสูงในปี 2565 แต่คาดจะได้แรงหนุนจากกลุ่มนักเดินทางระยะไกล (Long-haul trip) และกลุ่มลูกค้า Corporate ที่มากขึ้น 2) ธุรกิจร้านอาหารคาดเติบโตได้หลักๆ หนุนจากการฟื้นตัวแบบ V-shape ในตลาดจีน ขณะที่ปัจจัยกดดันด้านต้นทุนมีแนวโน้มผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่องจากราคาต้นทุนพลังงานที่ลดลงในยุโรป ตลาดอาจกังวลถึงประเด็นที่บริษัทฯ ทำสัญญาล็อกค่าไฟสำหรับปี 2566 ไว้แล้วราว 65% เมื่อปีที่ผ่านมา แต่จากการสอบถามข้อมูลกับบริษัทฯ โดยรวม ราคาพลังงานที่ล็อกไว้ในสัญญาส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน และส่วนที่เหลืออีก 35% จะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาพลังงานที่ลดลง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 43.50 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณการและคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 43.50 บาทต่อหุ้น (อิง EV/EBITDA ที่ 10 เท่า ) ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อ ขาย บน EVEBITDA ปี 2566 ที่ 8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงแรมที่ราว 10x-11x สะท้อนว่าหุ้นยัง Laggard กลุ่ม และราคาเหมาะสมยังมี Upside เปิดกว้าง เชิงกลยุทธ์ เราคาดแนวโน้มกำไรปกติ 1Q66 ของหุ้นโรงแรมรายอื่นจะโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY ทำให้มีสีสันกว่า MINT ในช่วงสั้น นักลงทุนอาจทยอยสะสม MINT หลังรายงานงบ 1Q66 เพื่อลุ้นการเติบโตที่แข็งแกร่งใน 2Q66

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาดการณ์, การระบาด COVID- 19 ที่รุนแรงรอบใหม่, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป

- Advertisement -