วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,557 / 1,550 แนวต้าน 1,570 / 1,580 ปัจจัยใหม่ยังไม่มี สัปดาห์น้ีติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัว แต่กำไรงบแบงค์ไทยส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยจำกัด Downside ได้บ้าง

Our View? “เบาลงบ้าง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,557 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,580 เรายังคงมองตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุน และอยู่ในช่วงการรอดูผลประกอบการของ บจ. ในตลาดต่างๆ และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค. ของสหรัฐคาดจะลดลงอยู่ที่ระดับ 6.3 แสนหลัง -1.6% MoM ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย CB เดือน เม.ย. คาดจะอยู่ที่ระดับ 104.0 อยู่ในภาพการอ่อนตัวลงต่อ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดจะออกมาที่ระดับ 2.5 แสนราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความตึงตัวลง รวมทั้งตัวเลข GDP 1Q66 ของสหรัฐคาดจะอยู่ที่ระดับ 2.00% ชะลอตัวลงจาก 4Q65 โดยจะพบว่าตัวเลขดังกล่าวข้างต้นล้วน เป็นข้อบ่งชี้ถึงทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลง ขณะที่ทางฝั่งนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยังมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุม FOMC เดือน พ.ค. นี้ จากเงินอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับที่สูง และคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพื่อรอประเมินผลกระทบของการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูง ทําให้เราคาดว่าความเสี่ยงของการที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในช่วง 4Q’66 มีมากขึ้น และเป็นปัจจัยหลักที่จํากัด Upside ของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้เริ่มมีสัญญาณถึงการฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างปิดที่ระดับ 77.87 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.50 ดอลลาร์ (+0.65%) หลังอ่อนตัวลงรับรู้ความกังวลจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว-ถดถอยจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง รวมทั้งแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มทรงตัว ทำให้คาดว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวประคองตลาดได้บ้างในระยะสั้น สำหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยส่วนใหญ่ออกมามากกว่าที่ตลาดคาดราว 7% โดยเป็นการเติบโตขึ้นโดดเด่น 45.19% QoQ และ +13.55% YoY คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ รวมทั้งยังเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อการเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นในกลุ่มอื่น ซึ่งช่วยให้ Dowside ระยะสั้นของตลาดจำกัดลงได้บ้าง

ขณะที่ประเด็นการปรับลดค่า Ft. ในรอบ เดือน พ.ค. – ส.ค. ที่ 4.70 บาท จากเดิมที่ 4.77 บาท โดย กฟผ.เสนอช่วยเหลือผ่านการยืดหนี้การชำระค่าไฟเป็น 2 ปี 4 เดือน เรามองผลกระทบดังกล่าวกดดันหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC, GULF และ BGRIM) ปรับตัวลงมากรับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปบ้างสมควรแล้ว คาดอาจเห็นการรีบาวด์กลับได้บ้างเล็กน้อยในระยะสั้น

ธีมการลงทุน “Selective Play” 

หุ้นแนะนาวันนี้ “KKP”

  • รายงานผลประกอบการ 1Q’66 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด +13.51% QoQ และ +1.44% YoY
  • ทางเทคนิค ราคาสร้างฐานในโซนล่างเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว Breakout ผ่านกรอบ 3 เหลี่ยม
  • กลยุทธ์ ทยอยชื้อสะสม แนวรับ 64.50 / 63.50 Target 67.50 / 69,00 Stop <63.00

- Advertisement -