SAWAD ผู้ถือหุ้นผ่านฉลุยกรอบวงเงินหุ้นกู้เพิ่ม 70,000 ลบ. หนุนการเติบโต พร้อมจ่ายปันผลประจำปี 1.80 บาท/หุ้น 19 พ.ค. นี้
ผู้ถือหุ้น SAWAD พร้อมใจอนุมัติกรอบวงเงินหุ้นกู้เพิ่มอีก 70,000 ล้านบาท รองรับการขยายตัวธุรกิจจำนำและธุรกิจของบริษัทในกลุ่มเต็มสูบ เตรียมจ่ายปันผลเป็นเงินสด 1.80 บาทต่อหุ้น 19 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหาร ธิดา แก้วบุตตา จ่อออกหุ้นกู้ตามกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ลดภาระต้นทุนสูง ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ ผลักดันพอร์ตสินเชื่อปี 66 เติบโตอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมาย
ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า การประชุมสามัญประจำปี 2566 ของบริษัทฯ ผู้ถือหุ้นได้ลงมติอนุมัติ กรอบการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มอีก 70,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินหุ้นกู้ทั้งสิ้น 100,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ โดยมียอดคงค้างราว 22,033 ล้านบาทจากวงเงินหุ้นกู้ที่ได้รับอนุมัติแล้ว 30,000 ล้านบาท หากบริษัทต้องการขยายธุรกิจ วงเงินหุ้นกู้ที่เหลืออาจไม่เพียงพอจึงเสนอกรอบวงเงินหุ้นกู้ใหม่ ซึ่งบริษัทสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติม หรือออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่มีการไถ่ถอนไปแล้วภายในวงเงินดังกล่าวได้ โดยที่จำนวนเงินไม่เกินวงเงินดังกล่าว
ขณะที่บริษัทได้พิจารณาเปรียบเทียบกับแหล่งเงินทุนที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันแล้ว พบว่า วงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่เป็นวงเงินที่จำกัดและมีต้นทุนสูง ขณะที่หุ้นกู้สามารถตอบโจทย์ในการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทและมีระยะเวลาในการกู้ยืมที่ยาวกว่า ทั้งนี้ในการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นได้มอบอำนาจให้คณะกรรมการบริษัท หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการเป็นผู้ดำเนินการในการกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละประเภท ในแต่ละครั้ง รวมถึงมีอำนาจแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย และการจัดทำและยื่นคำขอเอกสารต่างๆกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
“เรามีความตั้งใจที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับจากนี้จากธุรกิจหลักที่เราทำอยู่ จึงเป็นที่มาในการขออนุมัติกรอบวงเงินหุ้นกู้ใหม่เพื่อติดอาวุธ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท และสามารถบริหารจัดการในการออกหุ้นกู้เพื่อขยายธุรกิจได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ในปีนี้ ส่วนหนึ่งจะช่วยผลักดันพอร์ตสินเชื่อที่เราวางเป้าไว้ในปี 66 ให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 65 อย่างน้อย 25% ธิดา กล่าว
นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากกำไรสะสมและผลประกอบการปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 1.80 บาท โดยการจ่ายเป็นเงินสดรวม 2,471.67 ล้านบาท และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566