บล.ทรีนีตี้

ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล – MINT

ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท  / Upside/Downside +31% / Median Consensus 40.69 บาท

คาด 1Q66 โดดเด่นกว่าไตรมาส 1 ในช่วง Pre-COVID

  • คาด MINT รายงานขาดทุนสุทธิ 1Q66 ที่ 256 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 1.91 พันล้านบาทใน 4Q65 แต่ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 1Q65 ที่ 3.8 พันล้านบาท
  • คาดรายได้รวมที่ 3.02 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 13.4% QoQ แต่เติบโต 53.3% YoY โดยช่วงไตรมาส 1 เป็นช่วง Low Season ของกลุ่มโรงแรมในยุโรป แต่รายได้ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถเติบโตได้ดีเมื่อเทียบ YoY
  • คาด 2Q66-3Q66 มีผลการดำเนินงานปกติเติบโตได้ต่อเนื่อง จาก Demand ที่ยังคงแข็งแกร่งในยุโรป  ประกอบกับกลุ่มร้านอาหารที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีจากประเทศจีน ที่มีฐานต่ำ
  • คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ที่ 5.58 พันล้านบาท จากผลประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และสามารถทำรายได้สูงกว่าช่วง Pre-COVID
  • แนะนํา “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท โดยวิธี SOTP

1Q66 Earnings Preview

  • คาด MINT รายงานขาดทุนสุทธิ 1Q66 ที่ 256 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาทใน 4Q65 แต่ฟื้นตัวจากจากขาดทุนสุทธิ 3.8 พันล้านบาทใน 1Q65 โดยเป็นการฟื้นตัวของทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเทียบ YoY
  • การขาดทุนในไตรมาส 1 เป็นไปตามช่วง Low Season ของกลุ่มโรงแรมในยุโรป
  • คาดรายได้รวมที่ 3.02 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 13.4% QoQ แต่เติบโต 53.3% YoY โดยช่วงไตรมาส 1 เป็นช่วง Low DSeason ของกลุ่มโรงแรมในยุโรป แต่โรงแรมในประเทศไทยและ Maldives ยังคงเป็นช่วง High Season
  • คาด RevPar กลุ่ม Own Hotel อ่อนตัวลง 15% QoQ แต่ฟื้นตัวได้ 85% YoY โดยที่อัตราเข้าพักคาดว่าอยู่ที่ 60% อ่อนตัวลงจาก 64% ใน 4Q65 แต่ฟื้นตัวจาก 43% ใน 1Q65 ซึ่งลดลง QoQ เป็นผลจากฤดูกาลของยุโรป แต่ยังคงสูงกว่า 1Q65 จากการฟื้นตัวของการเดินทางทั่วโลก
  • โรงแรมในไทยเข้าสู่ Peak Season โดยมีอัตราเข้าพักที่ 70% ยังต่ำกว่า 1Q62 ที่ 81% แต่ Maldives มีอัตราเข้าพักที่ 65% โดยมี ADR สูงกว่า 1Q62 ที่ 20%
  • กลุ่มร้านอาหารคาด TSS ใน 1Q66 ที่ 20% YoY และ SSS สามารถเติบโตได้ที่ 12% QoQ และ YoY จากการเติบโตของทุกประเทศ โดยเฉพาะ Australia ที่มีฐานต่ำจากเหตุการณ์น้ำท่วมช่วง 1Q65 ในขณะที่ไทยและจีนมีการปรับตัวสูงขึ้น 5% และ 14% YoY ตามลำดับ

ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567

ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ที่ 5.58 พันล้านบาท โดยใน 2Q66-3Q66 คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตได้ YoY หลังจากที่จีนเปิดประเทศ รวมทั้งการเข้าสู่ High Season ของกลุ่มโรงแรมในยุโรป ในขณะที่ต้นทุนค่าไฟคาดว่าเริ่มมีเสถียรภาพและผ่านจุด Peak มาแล้ว ทั้งนี้ MINT ได้ทำการ Lock ราคาต้นทุนไปบางส่วน เพื่อลดความผันผวน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 40.50 บาท

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2566 ที่ 40.50 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2566 โดยที่รายได้และกำไรมีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 ในทุกกลุ่มธุรกิจ หลังจากกิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ และความกังวลต่อ Utility Cost ในยุโรปได้ชะลอตัวลงแล้ว

- Advertisement -