บล.ฟิลลิป:
BEM: คาด 1Q66 กำไรโต y-y, q-q
ซื้อ TP’66: 10.90
นอกจาก 1H66 ที่กำไรฟื้นตัวดีตามสถานการณ์โควิดใน 2H66 ยังจะได้ผลบวกจากการเปิดใช้รถไฟฟ้าเส้นใหม่สายสีชมพูและสีเหลือง โดยเฉพาะสีเหลืองที่มีสถานีเชื่อมต่อที่สถานีลาดพร้าว จะมีการส่งต่อผู้โดยสารจากชานเมืองเข้ากลางเมือง รวมถึงโครงการอสังหาฯ ที่ยังคงมีการเปิดอย่างต่อเนื่อง
งบรวม | 1Q66E | 1Q65 | 4Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 717 | 336 | 603 | 113.4 | 18.9 |
EPS | 0.05 | 0.02 | 0.04 | 113.4 | 18.9 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 1Q66 กำไร 717 ลบ +113.4% y-y, +18.9% q-q : คาดรายได้ +31.6% y-y ที่ 4,073 ลบ. จาก 1Q66 ที่มีผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าเฉลี่ย/วันที่ 1.13 ล้านคัน และ 3.81 แสนคน +17.4% และ 103.1% y-y โดยคิดเป็น 90% และ 118% ของก่อนโควิด ต้นทุนคาด +24% ซึ่งจะผันแปรไปตามการใช้บริการ ต้นทุนค่าไฟฟ้าและซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น ในขณะที่ SG&A +17.4% ตามรายได้ที่สูงขึ้น และคาดจะเป็นต้นทุนการเงินปรับตัวลดลง ส่วน q-q ที่ดีขึ้นมากจากต้นทุนและ SG&A ที่ปรับตัวลง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้น 3.5% q-q ซึ่งคาดการณ์กำไรถือว่าดีกว่าที่เคยมองไว้
- 2Q66 ยังดีต่อเนื่อง y-y แต่ q-q การดำเนินงานปกติคาดชะลอตัว : คาด 2Q66 จะยังเห็นการฟื้นตัวดี y-y เพราะปีก่อนยังมีผลกระทบจากโควิดใน 1H65 แต่หากเทียบ 1Q66 คาดจะชะลอตัวลงตามฤดูกาล เพราะเป็นช่วงปิดเทอม, วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ และวันหยุดพิเศษ 5 พ.ค. ซึ่งทำให้การเดินทางลดลง แต่ก็จะมีเงินปันผลจาก TTW และ CKP ที่ 337 ลบ. คาดกำไร 2Q66 จะโตทั้ง y-y, q-q