ผถห. COLOR ไฟเขียวปันผล 0.08 บ./หุ้น-รับทรัพย์ 25 พ.ค. ปี 66 ลุยประมูลงานใหม่ เป้ารายได้โต 20-25%
ผู้ถือหุ้น บมจ. สาลี่ คัลเล่อร์ ( COLOR ) อนุมัติจ่ายปันผลในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์ในวันที่ 25 พ.ค. 66 นี้ มั่นใจปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง วางเป้ารายได้โต 20-25 % ฟากผู้บริหาร “ พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ ” เผยพร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ ขยายฐานลูกค้าทุกธุรกิจ หนุนผลงานโตต่อเนื่อง
นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 25 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และจ่ายเงินวันที่ 25 พฤษภาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20 % จากปีก่อน ซึ่งในปีนี้ยังคงมีรายได้จากธุรกิจหลักต่อเนื่อง ขณะที่มีรายได้เพิ่มจากธุรกิจใหม่ที่แตกไลน์ ธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร เข้ามาสนับสนุนเพิ่ม จากก่อนหน้านี้บริษัทฯได้มีการขยายการลงทุนและการขยายลูกค้าเพิ่มขึ้น
โดยบริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐ และเอกชน ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System) มูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ รวมทั้งเตรียมการขยายช่องทางการขายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ตามแผนงานที่วางไว้
“กลยุทธ์ที่จะใช้ดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะเน้นไปที่การกระตุ้นยอดขาย และขยายฐานลูกค้าในทุกภาคธุรกิจที่มี ควบคู่การควบคุมต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น รวมทั้งเตรียมควาพร้อมทุกรูปแบบในการเข้ารับงานโครงการ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ มาจากธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกเป็นหลักที่ 85 % ด้าน Floating PV System 13 % ภาคการเกษตร 1% และอื่นๆ อีก 1% ” นายพีรพันธ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ COLOR กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่าในปีนี้ยังคงเห็นการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 20 – 25 % จากปีก่อนมีรายได้รวม 1,256 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 59.10 ล้านบาท
