บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Kiatnakin Bank (KKP.BK/KKP TB)*

Low margin of safety

Event

ประชุมนักวิเคราะห์ และปรับลดราคาเป้าหมาย

Impact

ผลขาดทุนจากธุรกิจ H/P ยังสูงอยู่

ผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขายรถที่ยึดมา ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น โดยผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมาเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาทใน 1Q66 (เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงก่อน COVID ระบาด) ในขณะที่ NPL จากสินเชื่อ H/P ที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าจะยังคงมีผลขาดทุนก้อนใหญ่ และคชจ.สำรอง (credit cost) จะยังคงสูงต่อเนื่องในไตรมาสหน้า

คาดว่าธุรกิจ H/P จะยังขาดทุนหนักไปอีกสองไตรมาส

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจ HP ขาดทุนหนัก อาทิเช่น การรุกขยายสินเชื่อหนักเกินไปในช่วงที่ COVID ระบาด โดยเน้นแข่งขันด้านราคามากเกินไป กระบวนการอนุมัติสินเชื่อผ่อนคลายมากเกินไป การขายสินเชื่อไปที่กลุ่มเสี่ยงเพื่อได้ยีลด์สูง และการที่ธปท. ปรับเกณฑ์กำกับดูแลโดยกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อม HP รถมือสองที่ <15% ทั้งนี้จำนวนที่ยึดคืนจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณ การผลขาดทุนจากธุรกิจนี้เป็น 3.0 พันล้านบาทในปี 2566 (จากเดิมที่ 1.9 พันล้านบาท)

เพิ่มสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำเพื่อสงวนเงินทุนเอาไว้

การรุกขยายสินเชื่อในช่วงสามปีที่ปผ่านมา ทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ของ KKP ที่ไม่รวมบริษัทในเครือ ลดลงไปอยู่ที่ 11.4% (13% เมื่อรวมบริษัทในเครือ) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 16% ทั้งนี้ เนื่องจากกระแส NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้น เงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับนี้จึงดูเหมือนจะต่ำเกินไป และไม่เพียงพอที่จะรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงได้

การออก warrant มีนัยยะเป็นลบ

ธนาคารได้ออกวอร์แรนต์ใหม่มาสองชุด (KKP-W5 และ KKP-W6) รวม 140 ล้านหน่วย (ซึ่งจะทำให้เกิน share dilution 15%) ธนาคารชี้แจงว่า การออก KKP-5 (อายุ 10 เดือน) KKP-W6 (อายุ 2 ปี 10 เดือน) โดยกำหนดราคาใช้สิทธิ์ที่ 70 บาท จะทำให้ฐานเงินทุนแข็งแกร่งมากขึ้น และจะทำให้ยังสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงได้

คงคำแนะนำถือ และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566F ลงเหลือ 72 บาท

ความเสี่ยง จากผลขาดทุนก้อนใหญ่ของธุรกิจ H/P และ credit cost ที่สูง ในขณะที่รายได้จากธุรกิจตลาดทุนถูกกดดัน เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566/2567 ลงปีละ 3% เนื่องจากเรา 1) ปรับเพิ่มผลขาดทุนจากการขายเป็น 3 พันล้านบาท / 2 พันล้านบาท (จากเดิม 1.9 พันล้านบาท / 1.5 พันล้านบาท 2) ปรับลด NIM ลงปีละ 10bps เหลือ 4.3%/4.5% 3) ปรับเพิ่มรายได้พิเศษ 610 ล้านบาทในปี 2566 ทั้งนี้ เรา de-rate PE ลงเหลือ 9x (จากเดิม 9.5x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 72.00 บาท จากเดิมที่ 79.00 บาท

Risk NPLs สูงเกินคาด, ความผันผวนของตลาดทุน, ผลขาดทุนของธุรกิจ H/P

- Advertisement -