บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +39.4%
Close Apr 25, 2023 Price (THB) 3.30
12M Target (THB) 4.60
Previous Target (THB) 4.60
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q66 ที่ 35 ลบ. (+44.2% QoQ, +167.7% YoY) จากการฟื้นตัวของภาคอุปโภคและบริโภคในประเทศ และแนวโน้มต้นทุนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนอัตรากำไรขั้นต้น
- แนวโน้ม 2Q66 คาดกำไรเบื้องต้นชะลอลง QoQ แต่เติบโตโดดเด่น YoY
- บริษัทประกาศลงทุนในบริษัท SPV ในเวียดนาม สัดส่วนการลงทุน 25% คาดช่วยให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งก้าไรเพิ่มราว 30 ลบ./ปี เริ่มรับรู้เต็มปีในปี 2567
Our view
- เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 ของ SFLEX ที่จะฟื้นกลับมาได้ชัดเจน หลังปัจจัยกดดันหลักด้านต้นทุนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับ Demand ที่จะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และรับรู้ผลของการปรับขึ้นราคาได้เต็มปี
- เราคาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 127 ลบ. (+132% YoY) คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเหมาะสมที่ 4.60 บาท ประมาณการยังไม่รวม Upside จาก JV ร่วมกับ TU และการเข้าลงทุนใน SPV
STARFLEX คาดจะเริ่มต้นปีได้อย่างสดใส
คาดกำไร 1Q66 เติบโตเด่น YoY ย้ำภาพการฟื้นตัว
เราคาดกำไรปกติ 1Q66 อยู่ที่ 35 ลบ. (+4.2% QoQ, +167.7% YoY) เติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จาก รายได้คาดที่ 455 ลบ. (+8.0% QoQ, +7.7% YoY) เติบโตตามการฟื้นตัวของภาคอุปโภคบริโภคในประเทศ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากขึ้น หนุนคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนของลูกค้า และอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 17.7% จาก 15.3% ใน 4065 และ 13.3% ใน 1Q65 จากอัตราการใช้กำลังการผลิต (U-rate) ที่สูงขึ้น และหลังจากรับรู้ผลของราคาวัตถุดิบหลักอย่างแผ่นฟิล์มที่ปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกได้มากขึ้น หลังสต๊อควัตถุดิบที่ราคาสูงเริ่มหมดไป ประกอบกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เน้นจำหน่ายให้กับลูกค้ารายเดิมมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการทำวิจัยและพัฒนาสำหรับทดลองสินค้าของลูกค้ารายใหม่ ขณะที่ SG&A คาดที่ 46 ลบ. (+33.2% QoQ, +4.3% YoY) เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่สูงขึ้น
แนวโน้มกำไร 2Q66 เติบโตเด่นต่อ YoY จากฐานที่ต่ำ
เราประเมินว่าแนวโน้มกำไร 2Q66 เบื้องต้นชะลอลงเล็กน้อย QoQ หลังจากปริมาณคำสั่งซื้อที่เข้ามามากในช่วง 1Q66 ทำให้เรามีมุมมองที่ระมัดระวังต่อคำสั่งซื้อใน 2Q66 ที่อาจชะลอลงไปบ้าง QoQ อย่างไรก็ตาม หากเทียบ YoY คาดกำไรจะเติบโตได้โดดเด่นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และสะท้อนภาพปัจจัยกดดันหลักอย่างราคาต้นทุนวัตถุดิบที่คลี่คลายได้อย่างชัดเจน โดยคาดว่า GPM จะยังรักษาระดับได้ที่ราว 16.0 – 18.0% เทียบกับ 11.1% ใน 2Q65 นอกจากนี้เราคาดจะเห็นกำไรที่เติบโต YoY ได้ทุกไตรมาสในปี 2566
ประกาศเข้าลงทุนในบริษัท Star Print Vietnam เป็นบวกต่อระยะยาว
บริษัทแจ้งตลาดฯ เข้าลงทุนในบริษัท Star Print Vietnam Joint Stock (SPV) ร่วมกับ SCGP (SCGP ถือ 70%, SFLEX ถือ 25%) มูลค่าการลงทุนของบริษัทไม่เกิน 383.5 ลบ. คาดธุรกรรมนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 3Q66 โดย SPV เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ในประเทศเวียดนาม โดยปี 2565 มีรายได้ 1,480 ลบ. และกำไรสุทธิที่ 135 ลบ. ดังนั้นหากอิงตามสัดส่วนการถือหุ้นของ SFLEX เบื้องต้นจะทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มราว 30 ลบ./ปี คิดเป็นส่วนเพิ่มราว 19% ของประมาณการกำไรปี 2567 ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ
กำไรปี 2566 ฟื้นตัวแบบ V-Shape … คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 คาดจะฟื้นตัวได้ชัดเจนตามภาพเศรษฐกิจและการบริโภคสินค้าที่ฟื้นตัว และปัจจัยกดดันด้านต้นทุนคลี่คลาย คงกำไรปกติปี 2566 ที่ 127 ลบ. (+131.9% YoY) และคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 4.60 บาท (PER ที่ 29.6 เท่า รวม ESG Rating เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ยังไม่รวม Upside จาก 1) ธุรกิจ JV ร่วมกับ TU จัดตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนที่คาดจะแล้วเสร็จใน 2H67 และ 2) การเข้าซื้อ SPV ในเวียดนาม