บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +16.0%
Close Apr 25, 2023 Price (THB) 29.75
12M Target (THB) 34.50
Previous Target (THB) 34.50
What’s new?
- คาด 1Q66 จะมีกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท -56% YoY จากฐานสูงช่วงเหตุการณ์รัสเซีย vs ยูเครน และมีกำไรจากการขายโรงไฟฟ้า
- เมื่อเทียบกับ 4Q65 แม้ธุรกิจโรงไฟฟ้ายังอ่อนแอ และค่าการกลั่นลดลง QoQ สวนทางคู่แข่ง เพราะได้อานิสงส์จาก Crude Premium จํากัด อย่างไรก็ตาม คาดกำไรฟื้นตัว +305% QoQ จากอัตราการกลั่นขึ้นทําสถิติใหม่, ขาดทุนสต็อกน้ำมันลดลง, ค่าการตลาดฟื้นตัว, และรับรู้ปริมาณผลิตของแหล่งปิโตรเลียมใหม่เต็มไตรมาส
Our view
- หากเป็นไปตามคาด 1Q66 จะคิดเป็น 37% ของคาดการณ์ทั้งปี แต่คงประมาณการเดิมไว้ก่อน เพราะแนวโน้ม 2Q65 ลดลง QoQ และ YoY จากการปรับฐานของ Crack Spread ผลิตภัณฑ์น้ำมันขั้นกลาง
- แม้งบ 1Q66 จะยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ด้วยโมเมนตัม 2Q66 ลดลง และเห็นความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาค – นโยบายพลังงานช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จึงแนะนำเพียง TRADING ราคาเหมาะสม 34.50 บาท (ยังไม่รวมดีลชื้อหุ้น ESSO โดยจะรอความชัดเจนเกี่ยวกับสัดส่วนถือหุ้น ราคาซื้อขายสุดท้าย)
BANGCHAK CORPORATION 1Q66 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ฟื้นตัว QoQ
คาดธุรกิจหลัก 1Q66 ฟื้นตัว QoQ
คาดกำไรสุทธิ 1Q66 จะทำได้ 1.9 พันล้านบาท -56% YoY เนื่องจาก 1Q65 เป็นช่วงความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย vs ยูเครนทำให้มีกำไรสต็อกน้ำมันกว่า 4.1 พันล้านบาท, ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรป, และมีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ประเทศอินโดนีเซีย 2.0 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับ 4Q65 แม้ผลประกอบการของธุรกิจโรงไฟฟ้า (BCPG) ยังอ่อนแอ จากผลกระทบเต็มไตรมาสของปัญหาสายส่งไฟฟ้าในประเทศลาว (เกิดขึ้นช่วงเดือนพ.ย.), ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (BBGI) ถูกกดดันจากต้นทุนการผลิตเอทานอล, และค่าการกลั่นคาดเหลือ US$11.5/bbl (-22% QoQ) ตามทิศทาง Crack Spread น้ำมันขั้นกลาง เช่น ดีเซล อากาศยาน (สวนทางคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นเพราะใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลางไม่มาก ทำให้ได้อานิสงส์จาก Crude Premium จำกัด) อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิฟื้นตัว +305% QoQ (ฐานต่ำใน 4Q65) จากอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 125kbd (All-time high), ขาดทุนสต็อกน้ำมันเหลือ 1.4 พันล้านบาท, ค่าการตลาดสูงขึ้นหลังภาครัฐแทรกแซงราคาน้ำมันดีเซลลดลง, รับรู้การผลิตแหล่งปิโตรเลียมใหม่เต็มไตรมาส
ทิศทางกำไร 2Q66 ลดลง QoQ และ YoY จากธุรกิจการกลั่น
สำหรับ 2Q66 แม้ประเมินว่าปริมาณขายปลีกน้ำมันจะฟื้นตัวช่วงเทศกาลท่องเที่ยว และปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปัญหาสายส่งลาว – เวียดนามทยอยคลายตัว อย่างไรก็ตาม คาดกำไรจะลดลง QoQ และ YoY เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่น (สัดส่วนกำไร 30-40%) จะได้รับผลกระทบจากการปรับฐานลงของ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด (โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง เช่น ดีเซล อากาศยาน UO สัดส่วนราว 70%) ซึ่ง 2QTD Crack Spread น้ำมันดีเซล และอากาศยาน -43% และ -49% ตามลำดับ กดดันจาก 1) การสิ้นสุดฤดูหนาวของยุโรป 2) อุปทานจากรัสเซียเข้าสู่ภูมิภาคมากขึ้น 3) การส่งออกของจีน – อินเดียเร่งตัว 4) กำลังผลิตจากโรงกลั่นใหม่เข้าสู่ตลาดช่วงกลางปี 5) ความต้องการใช้ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก
คงประมาณการเดิมไว้ก่อน
หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1Q66 จะคิดเป็น 37% ของคาดการณ์ทั้งปี คงประมาณการปี 2566 ที่ 5.2 พันล้านบาท (-59% YoY) ทั้งนี้ คาดการณ์ของเรายังไม่รวม Upside จากการซื้อ ESSO ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุมัติตามหลักเกณฑ์แข่งขันทางการค้า (Anti-trust) และข้อกำหนดสัญญาประกอบกิจการธุรกิจโรงกลั่น คาดจะสามารถเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ และเริ่มรับรู้ผลประกอบการของ ESSO ได้ช่วง 2H66 เบื้องต้นกรณีรวมงบเต็มปีจะทำให้ประมาณการกำไรปี 2567 ของเราที่ 5.2 พันล้านบาท มี Upside 54% (ประมาณการ – ราคาเหมาะสมของเรายังไม่รวมดีลการเข้าซื้อหุ้น ESSO เนื่องจากรอความชัดเจนของผลการทำ Tender offer และราคาซื้อขายสุดท้าย คาดกลไกการกำหนดราคาจะอ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินงวด 2Q66 – 3Q66)
คงคําแนะนํา TRADING…ไตรมาสถัดไปไม่เด่น และเห็นความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาค
แม้กำไร 1Q66 จะอยู่ในเกณฑ์ดี ฟื้นตัว QoQ จากฐานต่ำ แต่ด้วยโมเมนตัมไตรมาสถัดไปไม่เด่น คาดลดลง QoQ และ YoY รวมทั้งหุ้นอยู่ในกลุ่ม Global Play เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง และมีความเสี่ยงจากนโยบายพลังงานช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จึงคงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 34.50 บาท