บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +29.1%
Close Apr 24, 2023 Price (THB) 5.50
12M Target (THB) 7.10
Previous Target (THB) 9.70
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q66 ที่ 315 ลบ. (-8.4%QoQ, -28.0% YoY) จาก ASP ที่ลดลงมาก YOY กดดัน GPM ลดลงทั้ง QoQ และ YoY
- คาดกำไรปกติ 2Q66 ที่ระดับ 400 – 450 ลบ. ฟื้น QoQ ทรงตัว YoY ตามการฟื้นตัวของราคายางใน 1Q66 และการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายแบบ QoQ ขณะที่ 2H65 คาดปริมาณฝนที่ลดลง YoY ทําให้ราคายางมีโอกาสฟื้นตัวต่อ
Our view
- เราคงมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบของ NER
- ราคายาง SICOM ฟื้นตัวช้ากว่าคาด ทำให้เราปรับลด ASP ของ NER ลง 6% และถอดรายได้และกำไรธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ออกจากประมาณการ ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติปี 66 ลดลงจากเดิม 26% ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 7.10 บาท ยังคงคำแนะนำ ชื้อ แต่เชิงกลยุทธ์แนะนำสะสมหลังงบออก (11 พ.ค.)
- ปัจจุบันชื้อขาย PER66 ที่ 6.3 เท่า Div Yield 6%
NORTH EAST RUBBER ราคายางฟื้นช้า ฟื้นเบากว่าคาด
คาดกําไร 1Q66 ยังจืด
ราคายางแท่งตลาดกลาง กทม. รายงานโดย กยท. ใน 1Q66 เฉลี่ยอยู่ที่ 48.9 บาท/กก. (-0.8%QoQ, -17.2%YoY) เราคาดราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของ NER ทรงตัว QoQ ที่ 51.5 บาท/กก. แต่ลดลง 11.3% YoY คาดปริมาณขายที่ 1.35 แสนตัน (-1.8% QoQ, +40.1% YoY) คาดรายได้ที่ 6,951 ลบ. (-1.9%QoQ, +24.3%YoY) เติบโตสูง YoY ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และฐานปริมาณขายใน 1Q65 ค่อนข้างต่ำจากปัญหาตู้ Container และ Omicron อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 9.8% ลดลงจาก 10.0% ใน 4Q65 ตามปริมาณขายที่ลดลงเล็กน้อย และลดลงจาก 13.8% ใน 1Q65 จากการลดลงของ ASP คาดกำไรปกติที่ 315 ลบ. ลดลง 8.4% QoQ จากปริมาณขาย และ GPM ที่ลดลง ขณะที่ลดลง 28.0% YoY เพราะ GPM และอัตราภาษีที่สูงขึ้นจากการหมด BOI บางตัว
2Q66 ฟื้นตามปริมาณขาย และราคาขายเฉลี่ย
เราคาดการณ์กำไรปกติ 2Q66 เบื้องต้นที่ 400 – 450 ลบ. เพิ่มขึ้น QoQ และทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YOY ตามการฟื้นตัวของ ASP ในทิศทางเดียวกับราคายาง SICOM ใน 1Q66 ที่เพิ่มขึ้น 12% QoQ ขณะที่ปริมาณขายคาดเพิ่มขึ้น 5-10% QoQ ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้และ GPM ฟื้นตัว ตลาดบางแห่งยังมีปริมาณความต้องการสูงตามความต้องการยางล้อรถจาก 1) ปริมาณรถยนต์ EV ที่มีหลากหลายแบรนด์มากขึ้น และมีราคาถูกลง ทำให้ปริมาณความต้องการสูง 2) ความนิยมการเดินทาง Road trip และตลาดโลจิสติกส์ สินค้าแบบทันเวลาเติบโต ทำให้ปริมาณรถมากขึ้น และการใช้รถมากขึ้น เปลี่ยนยางเร็วขึ้น และ 3) ความพยายามในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพมากกว่าราคา NER ประกาศขยายกำลังการผลิตอีก 172,800 ตัน/ปี เป็น 688,400 ตัน/ปี เราคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1H67 เนื่องจากตลาดลูกค้าใหม่ทั้งในไทย จีน และอินเดียยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายยังมีโอกาส เติบโตได้ ยังไม่รวมในประมาณการ
ปรับประมาณการลงตามราคาขายที่ยังฟื้นไม่แรงมากนัก… คงคำแนะนำ ซื้อ
เราปรับปริมาณขายปี 2566 – 2567 ขึ้นปีละ 2% ทำให้ปริมาณขายปี 2566 อยู่ที่ 4.9 แสนตัน ยังต่ำกว่าเป้าหมายบริษัทที่ 5.0 แสนตัน แต่ปรับสมมติฐานราคาขายเฉลี่ยลง 6% เป็น 54.7 บาท/กก. และถอดสมมติฐานรายได้และกำไรจากแผ่นรองนอนสัตว์ออกจากประมาณการ ส่งผลให้ประมาณการรายได้ปี 2566 – 2557 ลดลงปีละราว 6% ส่วน GPM ปรับลดลงจาก 12.9% เป็น 11.0% ในปี 2565 และจาก 13.1% เป็น 10.9% ในปี 2567 ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติปี 2566 ลดลง 25.7% เป็น 1,611 ลบ. (-12.7% YoY) ทั้งนี้เพื่อประเมินแบบระมัดระวังไว้ก่อน โดยมี Upside คือราคาขายที่อาจสูงกว่าที่คาดได้ จากปริมาณฝนปี 2566 อาจต่ำกว่าปี 2565 ทำให้ ASP อาจสูงขึ้นได้ในช่วง 2H66 หากยิ่ง PER ที่ 8.15 เท่าเช่นเดิม ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ลดลงเป็น 7.10 บาท มี Upside gain 29.1% คงคำแนะนำ ซื้อ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2566 ต่ำเพียง 6.3 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 6% ปี แต่เชิงกลยุทธ์ แนะนำสะสมหลังงบออก (วันที่ 11 พ.ค.)