บล.ฟิลลิป:
SCC: กำไรดีกว่าคาดจากรายการพิเศษ
ซื้อ TP’66: 366.00
กำไรสุทธิออกมาดีกว่าคาด จากการรับรู้รายการพิเศษ ขณะที่กำไรปกติฟื้นตัว q-q แต่ยังอ่อนตัว y-y ซึ่งทางฝ่ายคาดว่ากําไรจะยังฟื้นตัวต่อใน 2Q66 เนื่องจากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการกลับมาเดินเครื่องโรงงานระยองโอเลฟินส์ตามปกติ ทางฝ่ายยังคงคําแนะนํา “ซื้อ”
งบรวม | 1Q66 | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 16,526 | 157 | 8,844 | 86.9 | n.a |
EPS | 13.77 | 0.13 | 7.37 | 86.9 | n.a |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- กําไรสุทธิ 1Q66 ออกมาดีกว่าคาด: กำไรสุทธิออกมาดีกว่าคาดอยู่ที่ 16,526 ลบ ฟื้นตัวอย่างมีนัย q-q และ +86.9% y-y เนื่องจากมีการรับรู้กำไรจากการปรับปรุงมูลยุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics จากการรวมธุรกิจ SCGJWD Logistics ซึ่งหากไม่รวมรายการดังกล่าว SCC จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 4,516 ลบ. ใกล้เคียงกับประมาณการของทางฝ่ายที่ 4,674 ลบ. สำหรับกำไรปกติที่ฟื้นตัวมาจากผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัว q-q ในทุกธุรกิจ 1) ธุรกิจซีเมนต์มีกำไรปกติอยู่ที่ 1,507 ลบ (กำไรสุทธิ 13,463 ลบ.) พลิกกลับมาเป็นกำไร q-q แต่ -35% y-y ซึ่งเหตุผลที่ทำให้กำไรยังคงอ่อนตัว y-y มาจากแรงกดดันของต้นทุนพลังงาน และต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง 2) ธุรกิจเคมิคอลส์มีกำไรอยู่ที่ 1,356 ลบ. พลิกกลับมากำไร q-q แต่ยังคงลดลง 62% y-y เนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศของจีน ประกอบกับการปิดซ่อมบำรุงโรงงานของผู้ผลิตหลายราย ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE/PP/PVC ใน 1Q66 อยู่ที่ 396 ดอลลาร์/ตัน (+10% q-q, -13% y-y) 380 ดอลลาร์/ตัน (+26% q-q, -21% y-y) และ 449 ดอลลาร์/ตัน (+29% q-q, +19% y-y) ตามลำดับ ประกอบกับ SCC ได้กลับมาเดินเครื่องโรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) ตามปกติตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. 66 ส่งผลให้มีปริมาณการขายที่มากขึ้น q-q