บล.บัวหลวง:
PTTEP – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
What’s new?
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายืนยันมุมมองของเราต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นและแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
Highlights:
- ผลการดำเนินงาน 2Q23 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากปริมาณขายปิโตรเลียมที่ลดลง, ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ลดลง, และต้นทุนต่อหน่วยที่สูงขึ้น
- สำหรับโครงการ G1 (เอราวัณ) บริษัทคาดว่าปริมาณการผลิตก๊าซจะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในเดือน ก.ค. นี้ (จาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปัจจุบัน), เป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปลายปีนี้, และเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันตามสัญญา PSC ในเดือน เม.ย. 2024
- สำหรับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซีย, UAE, และ Oman ยังคงมีความคืบหน้าตามแผน ในขณะที่โครงการ LNG ใน โมซัมบิค ปัจจุบัน TOTAL (ผู้ถือหุ้นหลัก) เตรียมที่จะกลับเข้าพื้นที่ในช่วง 2H23 (คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2027)
- PTTEP ยังคงมองหาโอกาสในการทำ M&A ของธุรกิจ E&P โดยมุ่งเน้นพื้นที่ SEA และตะวันออกกลาง ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว ปัจจุบันพิจารณาอยู่ 2-3 โครงการ (เป็นโครงการที่เริ่มผลิตแล้ว/ใกล้จะเริ่มการผลิต)
- สำหรับการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ Carbon Capture and Storage (CCS) ที่แหล่งอาทิตย์ (คาดว่าจะตัดสินใจลงทุนได้ภายในปลายปีนี้และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2026) นอกจากนั้นบริษัทจะขยายธุรกิจ AI & Robotics อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งศึกษาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจ green e-methanol, ธุรกิจ CCS as-a-service (carbon credit), และธุรกิจ future energy
View From Fundamental:
- แม้แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q23 จะไม่น่าตื่นเต้น แต่เราคาดว่า PTTEP จะกลับมารายงานกำไรหลักเติบโต QoQ ใน 2H23 หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่สูงขึ้น (จากคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น) นอกจากนี้มูลค่าหุ้นในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2023 ที่ 1.2 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.8SD) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2566 ที่ดีที่ 5.8% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 200 บาท)