ผถห.“KTMS” ไฟเขียวปันผล 0.0327 บาท/หุ้น จ่อรับเงิน 25 พ.ค.นี้ เดินเกมรุกปั้นรายได้ปี66 แตะ500 ลบ. ล่าสุด เตรียมเปิดสาขา..5 สาขาภายในไตรมาส 2 จาก 14 สาขา
บรรยายใต้ภาพ – นายมานิต ธีระตันติกานนท์ (กลาง) ประธานกรรมการบริษัท นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , นายวิจิตร เตชะเกษม (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะกรรมการ บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ รวมถึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.0327 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.นี้ และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 25 พ.ค.นี้
บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” เดินเกมรุก ปั้นรายได้ปี66 แตะระดับ 500 ล้านบาท ลุยเปิดสาขาใหม่ 14 แห่งทั่วประเทศในปีนี้ ล่าสุดเตรียมเปิดสาขาแล้ว 5 สาขา ภายในไตรมาส 2 นี้ พร้อมจ่อปักหมุดหน่วยไตเทียมครบ 40-50 หน่วย และมีเครื่องไตเทียม 400-500 เครื่องภายในปี 2568 ตอกย้ำผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ระดับ 500 ล้านบาท ซึ่งสอดรับกับแผนการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 14 แห่ง โดยจะเป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) 6 สาขา และเป็นศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาลรัฐบาล (outsource) จำนวน 8 สาขา ส่งผลให้จะมีเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 100 เครื่อง ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายหน่วยให้บริการผู้ป่วยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยล่าสุด บริษัทฯ จะเริ่มทยอยเปิดสาขา 5 สาขาโดยปักหมุด ที่จังหวัด…ตาก.พัทลุง สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น และประจวบคีรีขันธ์..
“อัตราการเติบโตของบริษัทฯในปีนี้ เชื่อว่าจะมีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยสัดส่วนรายได้หลักจะมาจากธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ประมาณ 75% และจะมาจากบริษัทย่อย 3 บริษัท ที่ประมาณ 25% ขณะเดียวกันการมีสาขาในรูปแบบคลินิกเพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทฯเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”
ส่วนความคืบหน้าการเข้าลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้หากโรงงานแล้วเสร็จจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3-4 ล้านแกลลอนต่อปี ส่งผลให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 900,000 แกลลอนต่อปี ซึ่งก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้วางกลยุทธ์ทางธุรกิจภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2566 – 2568 ) โดยตั้งเป้าเปิดหน่วยไตเทียม 40-50 หน่วย และคาดว่าจะมีเครื่องไตเทียม 400-500 เครื่อง พร้อมเตรียมจัดตั้งศูนย์ Medical Care and Technical School เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางด้านไตเทียม และบุคลากรด้านวิศวกรรม ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร