วันน้ีคาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,525 / 1,520 แนวต้าน 1,545 / 1,550 เข้าช่วงวันคาบเกี่ยววันหยุดยาวในสัปดาห์น้ี รวมทั้งรอติดตามผลการ ประชุม FOMC 2-3 พ.ค.
Our View? “แกว่งในกรอบจํากัด”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่ บริเวณ 1,525 / 1,520 และแนวต้านที่บริเวณ 1,545 / 1,550 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มี.ค. ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ให้ความสนใจในการพิจารณาเงินเฟ้อ และนโยบาย ทางการเงินออกมาที่ระดับ +4.2% YoY และ +0.1% MoM ใกล้เคียงกับที่ตลาดไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ CORE PCE เดือน มี.ค. อยู่ที่ +4.6% YoY และ +0.3% MoM ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดเช่นกัน ซึ่งสะท้อนกว่าเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มาก โดยเราคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจเกี่ยวกับการประชุม FOMC ของ FED ในคืนวันนี้-พรุ่งนี้เป็นสำคัญ เพื่อที่จะประเมินการใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป โดยเราคาดว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5.25% และคาดว่าจะเป็นการขึ้นครั้งสุดท้ายในรอบนี้ ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวยาวไปจนถึง 4Q’66 เพื่อรอประเมินผลกระทบของการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูง และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน โดยรีบาวด์ขึ้นในคืนวันศุกร์กว่า 2.70% จากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานการผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 12.48 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.พ. จากเดือน ม.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 12.54 ล้านบาร์เรล/วัน กระตุ้นความกังวลด้านอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวเพิ่มเติม ขณะที่เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 75.66 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.12 ดอลลาร์ (-1.46%) หลังจีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิต เดือน มี.ค. ออกมา 49.2 ต่ำกว่าระดับ 50.0 บ่งชี้แนวโน้มการหดตัวของภาคการผลิตจีน อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IVL และ SCC) จากการที่ส่วนต่างปิโตรเคมี อาทิ Ethylene-Naphtha และ HDPE-Naphtha เริ่มกว้างขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าวรีบาวด์ขึ้นได้ในระยะสั้น สําหรับปัจจัยในประเทศยังคงคาดปริมาณการซื้อขายของตลาดจะเบาบางลงจากช่วงคาบวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย อาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น
ขณะที่ตลาดยังคงเผชิญความเสี่ยงได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้น DELTA หลังจากการแตกพาร์ 0.10 บาท คาดจะ ส่งผลต่อทิศทางของ SET Index ได้ต่อ ขณะที่รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค. ของธปท. ที่เปิดเผยออกมาแม้จะเห็นเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค. ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย แต่ภาคการบริการยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยว ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน คาดเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยได้ต่อ
โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารฯ โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL,KTB และ TTB) จากการรายงานผลประกอบการ 1Q66 เติบโตมากกว่าที่ตลาดคาด โดยเพิ่มขึ้น +45.19% QoQ และ +13.55% YoY รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC) เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งใหญ่เดือน พ.ค. และตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยยังดีต่อเนื่อง คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาได้อยู่
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “SCC”
- ราคาปรับตัวลงมามากเกินไปแม้ กำไร 1Q’66 ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ จากกำไรพิเศษจาก M&A ของ SCG Logistics
- ทางเทคนิค จ่อ Breakout เส้นแนว โน้มขาลง RSI พุ่งไปนำก่อนแล้ว
- กลยุทธ์ ย่อชื้อ แนวรับ 310.00 / 305.00 Target 322.00 / 330.00 Stop <304.00