บล.ทรีนีตี้:
บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ – BAM
ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 17 บาท / Upside/Downside +29% / Median Consensus 19.05 บาท
กำไร 1Q66 ยังค่อนข้างอ่อนแอ ปรับประมาณการกำไรทั้งปีลง
- เราคาดกําไร 1Q66 ที่ 334 ล้านบาท อ่อนตัว 61%QoQ แต่ยังโต 7%YoY
- โดยคาดยอดจัดเก็บจาก NPL และ NPA อ่อนตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
- อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น ในด้านการซื้อหนี้ทำได้ดี เนื่องจากสถาบันการเงินนำหนี้ออกมาขายมากขึ้น
- กำไร 1Q66 ที่อาจออกมาต่ำ แม้ว่ากำไรในช่วงที่เหลือของปีอาจปรับตัวดีขึ้น แต่ยังทำให้ต้องปรับประมาณการกำไรปี 66 ลงราว 13% จากประมาณการก่อนหน้า
- แม้แนวโน้มกำไรระยะสั้นจะยังเติบโตไม่สูง แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามากจน Forward PBV เหลือ 0.9 เท่า สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
กำไร 1Q66 ยังค่อนข้างอ่อนแอ
เราคาดกำไร 1Q66 ที่ 334 ล้านบาท อ่อนตัว 61%QoQ แต่ยังเติบโต 7%YoY โดยแนวโน้มกำไรจากการขาย NPA คาดดีขึ้น YoY และแม้อ่อนตัว QoQ แต่ยังค่อนข้างสูง เนื่องจากทางบริษัทมีการทำโปรโมชั่นในการขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการฟรีค่าโอน บัตรกำนัล ฯลฯ และยังมีการออกบูธกระตุ้นการขายอีกด้วย แต่ในส่วนของยอดจัดเก็บจาก NPL คาดจะเติบโตได้บ้าง YoY แต่จะอ่อนตัวค่อนข้างมาก QoQ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล ในด้านค่าใช้จ่ายทางการเงินคาดปรับตัวขึ้น 2%QoQ และ 14% YoY จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแม้จะลดลงจาก 4Q65 เล็กน้อย แต่ยังเป็นระดับสูง เนื่องจากอาจมีค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาทรัพย์หลักประกันเพิ่มขึ้น ในส่วนการซื้อหนี้คาดว่าอยู่ที่ราว 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจาก YoY เนื่องจากสถาบันการเงินนำหนี้ออกมาขายมากขึ้น หลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทำให้คาดว่าจะถึงเป้าซื้อหนี้ที่ทางบริษัทตั้งไว้ที่ขั้นต่ำ 9 พันล้านบาทได้ไม่ยาก
ปรับประมาณการกำไรปี 66 ลง
ด้วยแนวโน้มกำไร 1Q66 ที่อาจออกมาในระดับต่ำ แม้ว่ากำไรในช่วงที่เหลือของปีจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้ยอดจัดเก็บจาก NPL และการขาย NPA ดีขึ้น บวกกับการซื้อหนี้ที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ทำให้จะสามารถรับรู้รายได้จากหนี้กองใหม่เพิ่มเติม แต่กำไรอาจไม่ถึงประมาณการทั้งปีที่เราทำไว้ก่อนหน้า เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลงราว 13% จากประมาณการก่อนหน้าลงเหลือ 2,866 ล้านบาท (+5%YoY) แม้แนวโน้มยังโตไม่สูง แต่ราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก จากการปรับประมาณการ เราจึงปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566 ลงเหลือ 17 บาท อิง PBV 1.2 เท่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ Forward PBV 0.9 เท่า ถือว่าสะท้อนปัจจัยลบไปมาก ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ NAV ที่เราคำนวณไว้ที่ 15 บาท อีกด้วย จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”