บล.บัวหลวง:
Central Pattana (CPN TB /CPN.BK)
CPN – ธุรกิจศูนย์การค้าขับเคลื่อนการเติบโต
ส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง การใช้จ่ายที่ฟื้นตัว และความสามารถในการบริหารต้นทุนของ CPN จะส่งให้กำไรไตรมาส 1/66 เติบโตดี เมื่อมองไปยังปี 2566 เราคาดกำไรจากทุกธุรกิจจะเพิ่มขึ้น YoY
ศูนย์การค้าขับเคลื่อนการเติบโตของกำไร
เราคาดกำไรหลักไตรมาส 1/66 ที่ 3,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 9% QoQ เราคาดรายได้จากธุรกิจหลักอยู่ที่ 9,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY แต่ลดลง 4% QoQ (รายได้จากการขายอสังหาลดลง) ขณะที่เราคาดรายได้ค่าเช่า ธุรกิจอาหาร และโรงแรมขยายตัว YoY และ QoQ แต่รายได้จากธุรกิจอสังหามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ (เนื่องจากไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวในไตรมาส 1/66)
จํานวนลูกค้าเข้าศูนย์การค้าในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 90% ของระดับปี 2562 ดังนั้นเราคาดรายได้ค่าเช่าจะอยู่ที่ 8,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY และ 1% QoQ โดยมียอดขายผู้เช่าที่แข็งแกร่งและส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง (ลดลงเหลือ 4% ในไตรมาส 1/66 จาก 16% ในไตรมาส 1/65) นอกจากนี้ เราคาดรายได้ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ โดยมีอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การจัดการต้นทุนที่ดีส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว YoY และ QoQ (หนุนโดยศูนย์การค้า) ขณะที่การใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลงส่งผลให้ อัตรากําไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น YoY และ QoQ
แนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแกร่งในปี 2566
ฤดูกาลของธุรกิจโรงแรมและที่อยู่อาศัย อาจส่งผลให้กำไรลดลง QoQ ในไตรมาส 2/66 แต่เรายังคงคาดส่วนลดค่าเช่าจะลดลงต่อเนื่อง การใช้จ่ายที่มากขึ้นในศูนย์การค้า และการจัดการต้นทุน (โดยเฉพาะการปรับค่าไฟ ส่วนกลางที่คิดกับผู้เช่าที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ.) ส่งผลให้กำไรเติบโต YoY ในปี 2566 และแม้ธุรกิจที่อยู่อาศัยอาจอ่อนตัวลงในไตรมาส 2/66 แต่ก็มีแนวโน้มที่จะหนุนการเติบโตของกำไรในครึ่งหลังของปี 2566 ผ่านการโอนโครงการ (มูลค่าทั้งหมด 6.3 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมี.ค. ซึ่ง 40% มีกําหนดการโอนในช่วงครึ่งหลังของปี 2566)
ความสามารถทางการเงินในการลงทุนใหม่ยังมีอยู่
แม้จะยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญาเช่าเซ็นทรัลปิ่นเกล้ากับ กองทรัสต์ CPNREIT หรือการลงทุนในเวียดนาม แต่เราคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ การต่อสัญญาเช่า สาขาปิ่นเกล้าจะช่วยรักษากระแส เงินสด การลงทุนในเวียดนาม (หากเดินหน้าต่อ) จะเพิ่มรายได้ในระยะกลางถึง ระยะยาว ณ สิ้นปี 2562 อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้นสุทธิของ CPN อยู่ที่ 0.69 เท่า หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท และเราคาดการณ์ EBITDA ที่ 24.8 พันล้านบาทในปี 2566 และ 29.1 พันล้านบาทในปี 2567 โดยบริษัทมีความสามารถในการกู้ยืมสูงถึง 5 หมื่นล้านบาทก่อนที่อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้นสุทธิที่ 1.75 เท่า จะเกินอัตราที่ผู้ให้กู้รับได้ (debt covenant)
หุ้นยังน่าลงทุน
ปัจจุบันหุ้น CPN ซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 24.1 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 29.8 เท่า อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าผลกำไรในอนาคตจะเติบโตสูงกว่าในอดีตก็ตาม เรามองว่า CPN มีความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่น่าสนใจ จากราคาหุ้นปัจจุบัน