- ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway to sideway down มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับจุดต่ำก่อนหน้าที่ 1,518 เป็นจุดพิจารณาเล่นรอบ แนวต้านกลับตัว 1,538-1,545
- วันนี้เคาะ CPN แนวโน้ม 1Q66 จาก Bloomberg คาดว่ามีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท (+12%QoQ, +21%YoY) จากการเป็นช่วง high season ของธุรกิจและการให้ส่วนลดค่าเช่าที่กลับมาใกล้เคียงระดับ Pre-COVID
MARKET STRATEGY
- สรุปตลาดวานนี้ SETI ปิดที่ 1,528.43 จุด ลดลง 0.69 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 39,979.71 ล้านบาท ตลาดบ้านเราจะเปิดเทรดเพียง 2 วัน และในช่วงที่หยุดยาวจะมีอีเว้นท์สำคัญในต่างประเทศ ทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
Research Highlight กังวลภาคการเงินในสหรัฐฯ//ติดตามการประชุมเฟด //เข้าใกล้ช่วงเลือกตั้ง
- กังวลเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย กระทบต่อภาคการเงินสหรัฐฯ ที่เริ่มเปราะบาง
- ตลาดให้นํ้าหนักกว่า 86.4% ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุม 2-3 พ.ค. จะกระทบต่อความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันธ.ขนาดกลาง-เล็กได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากเงินฝากปรับตัวลง 1 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือน มี.ค. ทำให้ความสามารถในการปล่อยกู้ลดลง และจะกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคต ทั้งนี้กลุ่มเปราะบางที่ต้องติดตามต่อคือ Consumer finance
- KBW Regional Banking Index ปรับตัวลงแรง หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐได้เข้าควบคุมกิจการ FRB และเปิดทางให้เจพีมอร์แกนเข้าซื้อกิจการ
- ทั้งนี้ หากไม่มีการส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้ภาพของการเกิด soft landing ที่ตลาดคาดหวังเปลี่ยนเป็น recession ชอบกลุ่ม Defensive เช่น BDMS BH SISB ADVANC
- IMF เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียโต 4.6% ปีนี้ แต่ไทยถูกหั่นโตเหลือ 3.4%
- IMF คาดการณ์ GDP ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวที่ 4.6% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
- การขยายตัวในภูมิภาคมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่นในอินเดีย
- ทั้งนี้ได้ปรับลด GDP ของไทยในปีนี้ลงสู่ 3.4% ซึ่งลดลง 0.3% จากที่เคยคาดได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอลงจากสหรัฐและยุโรป
- ส่งออกไทยปีนี้อาจไม่หดตัว
- สรท. รายงานตัวเลขส่งออก 1Q66 หดตัว 4.5%YoY น้อยกว่าที่คาด -10% จากรถยนต์, ฮาร์ตติสก์ และอัญมณีที่เติบโต
- คาดส่งออก Q2/66 หดตัว 2-3% ก่อนฟื้นใน Q3-Q4/66 ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปี 66 เหลือโต 0-1% จากเดือนก่อนที่คาดการณ์ไว้ที่ 1-2% แต่ให้ความมั่นใจไม่ติดลบ
- ปัจจัยเสี่ยงศก.จีน-สหรัฐ วิกฤตแบงก์ และความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน
- ครม. เพราะลดค่าไฟไม่เกิน 300 หน่วย เดือน พ.ค.-ส.ค. 66 ลดค่าไฟตามขั้นบันได
- ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบกลางวงเงิน 1.04 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือลดภาระค่าไฟประชาชนในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม 2566 โดยให้ส่วนลดไฟฟ้าแบบขั้นบันไดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จํานวน 150 บาทต่อราย
- มองเป็นบวกต่อกลุ่มการอุปโภค บริโภค ที่สนับสนุนกำลังซื้อของภาคประชาชน เราชอบ CPALL MAKRO OSP MTC
- ติดตาม
- 3 พ.ค. การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอทีพี (ADP) (เม.ย.) // ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.) // ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (เม.ย.)
- 4 พ.ค. รายงานการประชุม FOMC // การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( พ.ค.) EU // จํานวนคนที่ยืนขอรับสวัสดิการว่างงาน
- 5 พ.ค.การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (เม.ย.) // อัตราการว่างงาน (เม.ย.)
- Investment Strategy
- ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway to sideway down มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับจุดต่ำก่อนหน้าที่ 1518 เป็นจุดพิจารณาเล่นรอบ แนวต้านกลับตัว 1538-1545
- เข้าใกล้วันหยุดยาว อาจเห็นวอลุ่มเทรดที่เบาบาง รวมถึงอยู่ในช่วงจ่ายปันผล แนะนำ Selective buy 1. Earning play โดยแนวโน้มผลประกอบการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่ม คาดว่างบ 1Q66 ออกมาตี YoY เราชอบ OSP BJC ADVANC และอีกกลุ่มได้แก่ งบ 1Q66 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีก่อนจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี เราชอบ MINT AOT 2. Election rally ที่มักให้ผลตอบแทนที่เด่นชัดก่อนเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA 3. Dividend yield AP LH BAM
Global Markets
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงโดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของ สหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ และ ความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง และนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันอังคาร (2 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งวิตกว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้นํ้ามัน
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
หุ้นเคาะไป คุยไป..CPN
- CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ขยายตัว 20% จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยกลุ่มศูนย์การค้าจะเปิดตัว Central Westville งบลงทุนราว 6.2 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วง 4Q66 ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งขณะนี้ Occupancy ร้านค้าเกือบเต็ม 100% ทั้งนี้ในปี 67 ตั้งเป้าจะเบิด Central Nakhon Sawan (งบลงทุน 5.8 พันล้านบาท คาดเปิด 1Q67), Central Nakhon Pathom (งบ ลงทุน 8.2 พันล้านบาท คาดเปิด 2Q67) ซึ่งเป็นโครงการ mixed used ขนาดใหญ่ และ Central Krabi (งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิด 4Q67) ทั้งนี้ทิศทางของการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง จะช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้
- สำหรับการพัฒนาโครงการ Mega project Mixed-Used ของ CPN ใน 5-10 ปีนี้ มีทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท พื้นที่รวม 3.5 แสน ตร.ม. เริ่มจากโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 67-68
- ปัจจุบัน CPN มีพื้นที่เช่าศูนย์การค้ารวมกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่ามากกว่า 90% ส่วนการเติบโตของรายได้ในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 66-70) วางเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 12-13% ต่อปี
- ด้านธุรกิจที่อยู่อาศัย ยังคงใช้กลยุทธ์โลเคชั่นใกล้ศูนย์การค้า โดยแผนปี 66 เตรียมเปิดโครงการ ใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจอคารสำนักงาน มีโครงการ Central Park Offices malulasons Dusit Central Park u World-Class Professional Hub ส่วนกลุ่มโรงแรมปีนี้จะเปิดครบทุก 3 แบรนด์ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง
- ประมาณการแนวโน้ม 1Q66 จาก Bloomberg คาดว่ามีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท (+12%QoQ, +21%YoY) จากการเป็นช่วง high season ของธุรกิจและการให้ส่วนลดค่าเช่าที่กลับมาใกล้เคียงระดับ Pre-COVID ส่วนแนวโน้ม 2Q66 คาดว่ากำไรสุทธิจะยังขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY แตะระดับที่ 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์บวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย 4M66 อยู่ที่ 8.6 ล้านคน