บล.บัวหลวง: 

Thai Market Strategy – Final call ก่อนการเลือกตั้ง

ความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้งจะเปิดโอกาสเข้าสะสมหุ้น หากการจัดตั้งรัฐบาลราบรื่นจะหนุน SET หลังการเลือกตั้ง ซึ่งหุ้นผู้ชนะจากนโยบายเลือกตั้ง เราได้สรุปไว้ในรายงานฉบับนี้แล้ว

คาดการณ์พรรคร่วมรัฐบาล

โพลล่าสุดระบุว่าไม่มีพรรคใดจะได้เสียงข้างมากแบบ landslide หมายความว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะเป็นรัฐบาลผสม  ตัวเลขโพลล่าสุดมีความแตกต่างกันอย่างมากในหมู่ผู้สำรวจที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ามีโอกาสสูงที่ พรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่งมากกว่าพรรคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ชัดเจน เนื่องจากจะต้องมีพรรคร่วมเป็นพันธมิตร โดยในมุมมองของเรา เราเชื่อว่าความเป็นไปได้มากที่สุดคือพรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพลังประชารัฐและภูมิใจไทย ซึ่งภาพดังกล่าวจะเป็นโอกาสดีที่จะสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

SET คาดจะสดใสหลังเลือกตั้ง

การปรับตัวขึ้นของตลาดโดยเฉลี่ยระหว่างการเลือกตั้งมักจะเริ่มหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง และคงอยู่เพียงสองสามสัปดาห์ในช่วงหลังการเลือกตั้ง ค่าเฉลี่ยในอดีต การเปลี่ยนแปลงของ SET ช่วง 30 วันหลังการเลือกตั้งอยู่ที่ 3.7% โดยมีความเป็นไปได้ 83% [3% เมื่อเทียบกับ MXFEJ) ในการเลือกตั้ง 6 ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากการผ่อนคลายความกังวลทางการเมืองที่เกิดขึ้น ในช่วงก่อนการสำรวจความคิดเห็น ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศมักปรับตัวได้ดีในการเลือกตั้งทั้ง 6 ครั้งที่ผ่านมา กลุ่มพาณิชย์และกลุ่มขนส่ง (การจับจ่ายใช้สอยที่คาดจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ) กลุ่มการแพทย์ (สวัสดิการด้านสุขภาพที่คาดจะดีขึ้น) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (โครงการ EEC ต่อเนื่อง อุปสงค์ที่เกี่ยวกับการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย) และกลุ่มท่องเที่ยว (การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว) จะเป็นธีมหลักสำหรับช่วงหลังการเลือกตั้ง

ถอดรหัสนโยบายเลือกตั้ง…หาผู้ชนะ!

พรรคการเมืองส่วนใหญ่รณรงค์กระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการช่วยเหลือหลายโครงการ ซึ่งมุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายและดำเนินโครงการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนโยบาย 1) สวัสดิการคนจน เด็ก และผู้สูงอายุ และ 2) เงินอุดหนุนเกษตรกร การลดภาษีผู้มีรายได้น้อย (พลังประชารัฐ) ยังมีนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ/ค่าจ้าง (เพื่อไทย ก้าวไกล) การประกันรายได้ (ประชาธิปัตย์) และการพักชำระหนี้ (ภูมิใจไทย) ซึ่งจะได้รับการส่งเสริมเพื่อดึงคะแนนเสียง นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ (เพื่อไทย) และแลนด์บริดจ์ (เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย) เพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (ภูมิใจไทย) เพื่อสนับสนุนการลงทุนในระยะยาว และนโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การอุดหนุนรถโดยสารไฟฟ้า (ก้าวไกล) และแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์แบบแจกฟรี และรถมอเตอร์ไซค์ EV ราคาถูก (ภูมิใจไทย) เราคาดจะเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการ GDP ปี 2567 บนสมมุติฐานกรณีฐานที่ 0.3-1.9% (โดยจากการศึกษาของเราพบว่า GDP ที่เพิ่มขึ้นทุก 1% จะหนุนต่อกำไรสุทธิของ SET ที่ 4.7%) โดยลิสของหุ้นผู้ชนะในการเลือกตั้งรอบนี้อยู่ ในรูปที่ 4

- Advertisement -