บล.ฟิลลิป:
ONEE: คาด 1Q66 กำไรหดตามงบโฆษณา
ซื้อ TP’66: 7.00
แม้ 1Q66 คาดกำไรจะลดลง y-y, q-q แต่แนวโน้มใน 2Q66 จะฟื้นตัวขึ้น q-q จากตามงบโฆษณาที่มีสัญญานดีขึ้น อีกทั้งจะมีงานอีเว้นต์และบริหารศิลปินที่ยังเติบโตอยู่ แต่ด้วยกำไร 1Q66 ที่คาดลดลง จึงปรับลดกำไรทั้งปีนี้ลงเป็น 655 ลบ. และปรับราคาพื้นฐานลง ราคาหุ้นรับข่าวผลกำไรที่ลดลงมามากแล้ว ยังแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 1Q66E | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 42 | 145 | 250 | -83.3 | -71.2 |
EPS | 0.02 | 0.06 | 0.11 | -83.3 | -71.2 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 1Q66 กำไรสุทธิ 42 ลบ -83.3% y-y, -71.2% q-q: จากเม็ดเงินโฆษณาทางทีวี 1Q66 หลตัว 11% q-q, y-y จากความกังวลด้านเศรษฐกิจ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ต้นทุนพลังงาน และเงินเฟ้อ อีกทั้งยังลดเวลาละครค่ำและปีก่อนมีละครดัง รายได้ค่าลิขสิทธิ์ลดลงเพราะปีก่อนมีซีรี่ส์ดัง F4 รวมถึงรับจ้างผลิต แม้คาดรายได้จากวิทยุ ขายสินค้า อีเว้นต์ และบริหารศิลปิน โตขึ้น แต่ชดเชยได้ไม่ทั้งหมด คาดรายได้รวม -11.1% y-y ที่ 1,397 ลบ. ต้นทุนเพิ่มขึ้น จากต้นทุนขาย และต้นทุนอีเว้นต์และบริหารศิลปิน ซึ่งเป็นไปตามรายได้ และ SG&A เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากค่าใช้จ่ายขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรที่ลดลง q-q มาจากรายได้ที่ลดลง ต้นทุนขึ้น และ 4Q65 มีภาษีคืน 37 ลบ.
- 2Q66 ดีขึ้น q-q: 2Q66 คาดจะขึ้น q-q จากเม็ดเงินโฆษณามีการฟื้นตัวในเดือน มี.ค. +35% เป็นสัญญาณที่ดีว่า 2Q66 รายได้โฆษณาฟื้นตัว q-q ทั้งจากฤดูกาลที่ดีกว่า และเม็ดเงินโฆษณาเริ่มกลับมา อีเว้นต์มีมากขึ้นจาก Fan Meeting ด้วยกลยุทธ์ Idol Marketing และคอนเสิร์ตทำให้รายได้ยังดีต่อเนื่อง รวมถึงบริหารศิลปินที่ยังเติบโต อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้ม 1Q66 ที่คาดกำไรลดลง จึงปรับกำไรปีนี้ลงเป็น 655 ลบ. -11.3% y-y และปรับราคาพื้นฐานเป็น 7 บาท