บล.ฟิลลิป:
ธนาคารกรุงเทพ – BBL ตั้งเป้า Conservative เกินไป
Key Point
BBL มองว่าสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีจะยังเติบโตได้ จากการได้ประโยชน์ของการมีเครือข่ายในเอเชีย และอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังเติบโตได้ดี นอกจากนี้ BBL จะยังคงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นต่อเนื่องอีก ถึงแม้จะตั้งเป้า NIM ไว้ที่ 2.5% ซึ่งทางฝ่ายมองว่าเป็นเป้าที่ Conservative เกินไป และการที่มีสำรองต่อ NPL ที่สูงมาก และมีการตั้งสำรองสูงไปแล้วใน 1Q66 จะทำให้ผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีโตต่อได้ คงประมาณการ คงราคาพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ”
สินเชื่อ 1Q66 หดตัว แต่ยังคงเป้าเติบโต 4 – 6%
BBL มีสินเชื่อ 1Q66 หดตัวลง 1.6% g-q ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชำระคืนสินเชื่อจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อต่างประเทศ อย่างไรก็ตามทาง BBL ยังคงเป้าการเติบโตสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่ 4 – 6% เช่นเดิม ถึงแม้จะมองว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนของโลกที่ยังคงเติบโตได้ดี อย่างภูมิภาคเอเชียและอาเซียน จากการเปิดประเทศ และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในภูมิภาคเหล่านี้อาจจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต และการลงทุน โดย BBL นั้นมีเครือข่ายครอบคลุมภูมิภาคนี้อยู่แล้วจะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์เหล่านี้
คงเป้า NIM ไว้ที่ 2.5% ซึ่งทางฝ่ายมองว่า Conservative เกินไป
BBL ยังคงเป้า NIM ของปี 66 ไว้ที่ 2.5% ซึ่งทางฝ่ายมองว่าเป็นเป้าที่ Conservative เกินไป โดยใน 1Q66 ถึงแม้ว่า BBL จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และการกลับมาจ่ายเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ในระดับปกติ ทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นมาเป็น 1.57% จาก 1.2% ใน 4Q65 อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้ผลตอบแทนสินเชื่อของ BBL เพิ่มมาเป็น 4.18% จาก 3.86% ใน 4Q66 และทำให้ NIM เพิ่มขึ้นมาเป็น 2.85% จาก 2.84% ใน 4Q66 และเป็นเพียง 1 ใน 2 ธนาคารนอกเหนือจาก KTB ที่มี NIM เพิ่มสูงขึ้นใน 1Q66 และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งน่าจะยังคงมีอยู่ตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะทำให้ผลตอบแทนสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้นได้อีก และน่าจะทำให้ NIM ของ BBL สูงกว่า 2.5% ตามเป้าที่ทาง BBL ตั้งไว้
ยังคงประมาณการและราคาพื้นฐาน 191 บาท แนะนำ “ซื้อ”
ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 66 ของ BBL ไว้ที่ 41.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 42.2% y-y โดยการที่ BBL ยังคงเป้าการตั้งสำรองไว้ที่ 1% ของสินเชื่อรวม จาก 1Q66 ที่มีการตั้ง 1.3% ของสินเชื่อรวม ทำให้ผลประกอบการของ BBL ในช่วงที่เหลือของปี ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มสูงขึ้นจาก 1Q66 ได้อีก ยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 191 บาท ยังมีส่วนต่างจากราคาปัจจุบันอยู่พอสมควร จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย
2. ความเสี่ยงด้านเครดิต
3. การเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน