บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

ESSO (Thailand) (ESSO.BK/ESSO TB)*

ประมาณการ 1Q66F: จะปิดซอมบำรุง CDU#1 ตามแผนในเดือนพ.ค.

Event

ประมาณการ 1Q66F, ปรับลดประมาณการกำไรเต็มปี และปรับลดราคาเป้าหมาย

Impact

คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้น QoQ ใน 1Q66F

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ ESSO ใน 1Q66F จะอยู่ที่ 974 ล้านบาท (-84% YoY, ฟื้นตัวขึ้น QoQ จากขาดทุน สุทธิ 1.6 พันล้านบาทใน 4Q65) กำไรที่ลดลงอย่างมาก YoY เป็นเพราะเราคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 1.5 พันล้านบาทใน 1Q66 ลดลงจากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันก้อนใหญ่ใน 1Q65 เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง 5% QoQ เหลือ US$80/bbl ใน 1Q66 ส่วนผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ จะเป็นเพราะ marketing GRM และอัตราการกลั่นน้ำมันดิบดีขึ้น โดยเราคาดว่า market GRM ของ ESSO จะเพิ่มขึ้น 31% QoQ เป็น US$9.0/bbl เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซินสูงขึ้น และต้นทุน crude premium ลดลง นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น 138KBD ซึ่งเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตรายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่ COVID-19 เริ่มระบาดในประเทศไทยใน 1Q63 นอกจากนี้ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจการตลาดน้ำมันจะดีดตัวขึ้น QoQ เนื่องจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่าคาการตลาดน้ำมันอ้างอิงของประเทศไทยใน 1Q66 เพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 2.13 บาท/ลิตร หลังจากที่กระทรวงพลังงานอนุญาตให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลกลับขึ้นไปอยู่ระดับปกติที่ 1.80 บาท/ลิตร ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ จากเดิมที่ตรึงเอาไว้ที่ 1.40 บาท/ลิตร แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันของบริษัทจะลดลง 3% QoQ เหลือ 1,332 ล้านลิตร เนื่องจากผ่านช่วย peak ตามฤดูกาลของการเดินทางในประเทศในไตรมาสที่สี่ไปแล้ว

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F/2567F ลง 32%/19%

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 32% เหลือ 4.5 พันล้านบาท และปี 2567F ลง 19% เหลือ 4.8 พันล้านบาท เนื่องจาก market, GRM และอัตราการกลั่นน้ำมันดิบลดลง โดยเราได้ปรับลดสมมติฐาน market GRM ของ ESSO ในปีนี้ลง 14% เหลือ US$7.1/bby และปีหน้าลง 13% เหลือ US$6.5/bbl หลังจากที่เราปรับลดสมมติฐาน spread ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลลง 20-25% เหลือ US$18.0/10.0/bbl ในปี 2566F และ US$16.0/16.0/bbl ในปี 2567F ตามลำดับ เนื่องจาก i) ผ่านช่วงที่อุปสงค์สูงตามฤดูกาลในหน้าหนาวไปแล้ว และ ii) ไม่มีอุปสงค์พิเศษจากการเปลี่ยนจากการใช้ก๊าซไปเป็นน้ำมันในยุโรปอีก นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะปิด CDU#1 กำลังการผลิต 79KBD นานหนึ่งเดือนในเดือน เพื่อเชื่อมต่อกับ upgrading, units เพื่อให้น้ำมันได้ตามมาตรฐาน Euro 5 ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ดังนั้นเราจึงปรับลดสมมติฐานอัตราการกลั่นน้ำมันดิบของ ESSO ในปีนี้ลง 8% เหลือ 120KBD ในขณะที่คงสมมติฐานของปีหน้าเอาไวเท่าเดิมที่ 133KBD

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566F ลงเหลือ 9.50 บาท จากเดิมที่ 11.40 บาท โดยอิงจาก EV/EBITDA ที่ 5.5x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง ถึงแม้เราจะยังคงคำแนะนำซื้อ ESSO เนื่องจาก i) คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น QoQ ใน 1Q66F และ ii) คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 4.7% ในปี 2566F และ 5.0% ในปี 2567F แต่เราแนะนำให้ลงทุนอย่างระมัดระวังในตลาดโรงกลั่นในไตรมาสที่สอง  เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ช่วง low season ของธุรกิจโรงกลั่น ในขณะที่ Bangchak Corporation (BCP.BK/BCP TB)* แจง SET เมื่อ 16 มีนาคมว่าราคาซื้อสาธิตเบื้องต้นใหม่ของ ESSO ที่ 9.18 บาท/หุ้น อิงจากงบการเงิน ESSO ล่าสุดใน 4Q65

Risks ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และค่าการตลาดน้ำมัน

- Advertisement -