บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Major Cineplex Group (MAJOR.BK/MAJOR TB)
ประมาณการ 1Q66F: คาดกำไรฟื้นตัว YoY
Event
ประมาณการ 1Q66F และปรับประมาณการกำไรสุทธิ
Impact
คาดกำไรสุทธิ 1Q66F พื้นตัวแข็งแกร่ง (+133% YoY)
เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q66F ของ MAJOR ที่ 56 ล้านบาท (+133% YoY แต่ -26% QoQ) กำไรเติบโต แข็งแกร่ง YoY ที่สำคัญเกิดจากรายได้เพิ่มขึ้น และmargin ที่ดีขึ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานลดลง QoQ หลักๆ เป็นเพราะฐานรายได้และ margin ที่สูงใน 4Q65 หากเป็นตามที่เราคาด โดยปกติกำไร 1Q66F จะคิดเป็น 10% ของประมาณการกำไรสุทธิเราเต็มปี 2566F
คาดผลการดำเนินงานยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง
เราคาดรายได้ใน 1Q66F ของ MAJOR ที่ 1.6 พันล้านบาท (+39% YoY แต่ -18% QoQ) แบ่งเป็น i) ยอดขายตั๋วสูงขึ้น 40% YoY แต่ลดลง 19% QoQ อยู่ที่ 752 ล้านบาท ii) คาดยอดขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวที่ 428 ล้านบาท (+45% YoY แต่ -17% QoQ) ii) รายได้จากค่าโฆษณา (11% ของรายได้) เพิ่มขึ้น 37% YoY อยู่ที่ 185 ล้านบาท ในขณะที่ลดลง 18% QoQ สะท้อนโมเมนตัมผู้ชมภาพยนตร์ลดลง และ iv) รายได้จากการดำเนินงานอื่น ๆ (โบว์ลิ่ง ค่าเช่า และการขาย content) เพิ่มขึ้น 25% YoY แต่ลดลง 11% QoQ ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น YoY เราคาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้นที่ 30.3% (จาก 11.1% ใน 1Q65) แต่ลดลงจาก 35.1% ใน 4Q65 ในแง่สัดส่วน SG&A/ยอดขาย คาดลดลง QoQ อยู่ที่ 27.8% (เทียบกับ 31.9% ใน 4Q65 และ 16.8% ใน 1Q65) ผลจากการจ่ายโบนัสในไตรมาสก่อนหน้า
คาดมีอัตราการเติบโตกำไรสุทธิสูง แม้ว่าเราปรับลดประมาณการลง
เรามองว่า MAJOR ยังมีโปรแกรมหนังดัง ๆ อีกมากรอเข้าฉาย (เช่น Guardians of the Galaxy Vol.3, Fast X, Spider-Man และ Transformers) ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายตั๋ว และรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราคาด กำไรสุทธิของ MAJOR เติบโตแข็งแกร่งขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ใน 2Q66F-3Q66F อย่างไรก็ตาม บนสมมติฐานเราปัจจุบันด้านรายได้ค่าโฆษณา (ที่มีสัดส่วน margin สูง) อยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท อาจจะสูงเกินไป (ประมาณการ 1Q66F คิดเป็น 18% ของประมาณการเราเต็มปี 2566F) ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลง 17%/28% for 2566F/2567F เป็นผลมาจาก i) รายได้ลดลง 2%/10% ในปี 2566F/2567F เนื่องจากปรับลดรายได้ค่าโฆษณาลงเป็นหลัก ii) อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 30.9%/32.8% ใน ปี 2566F/2567F (จากเดิมที่ 33.8% 36.7%) ตามสัดส่วนรายได้ที่ลดลง
Valuation & Action
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรที่คาดว่าจะดีขึ้นในปี 2566F ด้วยประมาณการกำไรสุทธิใหม่ที่ 578 ล้านบาท (+129% YoY) หนุนจากรายได้และ margin ฟื้นตัว รวมทั้งผลบวกจากฐานต่ำ ทั้งนี้ ภายหลังจากการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงใหม่และแนวโน้มธุรกิจ เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 19.20 บาท โดยวิธี DCF (WACC ที่ 7.6% และ terminal growth ที่ 0.5%) จากเดิมที่ 23.80 บาท และคงคำแนะนำซื้อ หุ้น MAJOR
Risks รายได้จากโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาดไว้