บล.ทรีนีตี้:
เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส – JMT
ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 66 บาท / Upside/Downside +67% / Median Consensus 56 บาท
คาดกําไร 1Q66 อ่อนตัว QoQ แต่ยังโต YoY
- คาดกำไร 1Q66 ที่ 459 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ แต่ยังเติบโต 26%YoY
- ยอดจัดเก็บ NPL มีแนวโน้มดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและฐานหนี้ที่สูงขึ้น
- ต้นทุนการให้บริการอาจลดลง QoQ จากค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมาย
- ส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จากฐานหนี้ที่โอนมาใน 4Q66
- มองกำไรจะโตเด่นในช่วง 2Q66 และ 4Q66 ตามฤดูกาล
- ภาพรวมปี 66 คาดกำไรโต 31%YoY โดยคาดยอดจัดเก็บดีขึ้นตามเศรษฐกิจ ส่วนค่าใช้จ่ายลดจากปี 65 ที่มีค่าใช้จ่ายจากประกัน COVID-19
- การ Spin-off JAM อาจชะลอ ช่วยลดความกังวลที่จะเกิด Earning Dilution
- มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวเป็นผลจากปัจจัยภายนอกมากกว่าพื้นฐาน คงแนะนำ “ซื้อ”
คาดกำไร 1Q66 อ่อนตัว QoQ แต่ยังโต YoY
เราคาดกำไร 1Q66 ที่ 459 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ แต่ยังเติบโต 26%YoY โดยยอดจัดเก็บจาก NPL ยังเติบโต QoQ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ บวกกับฐานหนี้ NPL ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี หลังสถาบันการเงินนำหนี้ออกมาขายมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการให้บริการลดลงราว 12%QoQ ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายและดำเนินคดีค่อนข้างสูง ด้านส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทรวม (JK AMC) คาดเพิ่มขึ้นราว 42%QoQ ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้จาก NPL ในไตรมาสก่อนที่รับโอนเข้ามาเพิ่มขึ้นราว 4 หมื่นล้าน บาท ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดเพิ่มขึ้นราว 46%QoQ เนื่องจากอาจเห็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยค้างรับของหนี้มีหลักประกัน
ยังคงเห็นแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นในปี 2566
เรายังคงมองกำไรปี 2566 จะเติบโตได้ราว 31%YoY หลังการเติบโตในปี 2565 ชะลอลงเหลือ 25%YoY (หากไม่นับรวมประกัน COVID-19 กำไรปี 2565 ยังเติบโตราว 34%YoY) โดยคาดว่าจะเห็นกำไรดีขึ้นในช่วง 2Q66 และ 4Q66 ตามฤดูกาลที่จะมีการปรับตารางคำนวณ IRR ส่วนภาพรวมทั้งปีนอกจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเช่นในปี 2565 แล้วยังคาดการจัดเก็บกระแสเงินสดจะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และการซื้อหนี้จะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการขายหนี้จากสถาบันการเงินที่มากขึ้น หลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ นอกจากนี้เรายังคาดจะเห็น ส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ที่มากขึ้นจากการรับโอนหนี้จาก KBANK เข้ามาเพิ่มเติม
ชะลอการ Spin-off JAM
สำหรับประเด็นการ Spin-off JAM นั้น ทางผู้บริหารชี้แจงว่าปัจจุบันได้พิจารณาเลื่อนออกไป ซึ่งคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ลดความกังวลที่จะเกิด Earning Dilution ต่อกำไรของ JMT มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 66 บาท อิง PBV 3.9 เท่า โดยราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมามองว่าเป็นผลจากภาวะตลาด และปัจจัยด้านจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง: อัตราการจัดเก็บหนี้และกระแสเงินสดและการซื้อหนี้ต่ำกว่าที่คาด