บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Eastern Polymer Group (EPG) 2Q & 2564/65 จะทําสถิติสูงสุดต่อ
Company Update
ประเด็นการลงทุน
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q64/65 และ 2564/65 ยังมีโมเมนตัมด้านบวก และคาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แรงหนุนการเติบโตทั้งสามธุรกิจ AeroFlex,AeroKlas และ EPP นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบราคาปิโตรเคมีที่ปรับลดลง และการอ่อนค่าของเงินบาทจะส่งผลบวก EPG จากมีสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศประมาณ 60-70% เราคงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF (WACC 8%, LTG 3%) ได้เท่ากับ 15 บาท
ผู้บริหารคงเป้าหมายปี 2564/65 จะเติบโตดี
การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (19ส.ค.) ผู้บริหารมีมุมมองในด้านบวก แนวโน้มผลประกอบการปี 2564/65 (เม.ย.2564–มี.ค.2565) จะเติบโตดี คงตั้งเป้ายอดขายประมาณ 11,000 ล้านบาท เติบโต 12-15% และมีอัตรากำไรขั้นต้น 29%-32% เทียบกับปีก่อน 31.1% ธุรกิจของ EPG ทั้งสามธุรกิจมีแนวโน้มจะเติบโต คือ 1) ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น (AeroFlex) ตั้งเป้าจะเติบโต 10-12% โดยเฉพาะสหรัฐเติบโตสูง ขยายกำลังการผลิตเท่าตัวและมีอัตรากำไรขั้นต้น 41-43% ใกล้เคียงปีก่อน 2) ธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์ (AeroKlas) ตั้งเป้าจะเติบโต 20-23% จากส่งออกมีอัตรากำไรขั้นต้น 30-33% ใกล้เคียงปีก่อน และ 3) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก (EPP) ตั้งเป้าหมายจะเติบโต 5-8% และมีอัตรากำไรขั้นต้น 19-21% ดีขึ้นจากปีก่อน 18.6%
เงินบาทอ่อนค่าและราคาวัตถุดิบลงส่งผลบวก
ราคาปิโตรเคมีซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของ EPG ปัจจุบันได้อ่อนตัวลงจะทำให้ต้นทุนลดลง ซึ่งต้นทุนวัตถุดิบที่เกี่ยวกับปิโตรเคมีเทียบกับยอดขายของ EPG คือ AeroFlex 20%, AeroKlas35-40% และ EPP50% ในขณะที่ EPG ได้ทยอยปรับราคาขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีขึ้น และการอ่อนค่าของเงินบาทจะส่งผลบวก ทำให้ยอดขายต่างประเทศที่มีสัดส่วนประมาณ 60-70% มีรายได้เป็นเงินบาทมากขึ้น นอกจากนี้จะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากที่ลูกหนี้เป็นดอลล่าร์จะมากกว่าเจ้าหนี้ดอลล่าร์ประมาณ 14 ล้านดอลล่าร์
คาดผลประกอบการ 2Q64/65 และ 2564/65 จะทําสถิติสูงสุดใหม่
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q64/65 (ก.ค.–ก.ย.2564) ยังมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อ หลังจากที่ไตรมาส 1Q64/65 (เม.ย.-มิ.ย.) สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่มีกำไรสูงถึง 448 ล้านบาท (+11%QoQ, +492%YoY) แรงหนุนการเติบโตทั้งสามธุรกิจ เราคงประมาณการคาดยอดขายปี 2564/65 เท่ากับ 11,697 ล้านบาท โต 22% และมีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,652 ล้านบาท โต 36% ประมาณการของเรายังค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเพราะกำไรไตรมาสแรก 1Q64/65 มีสัดส่วนคิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปี