บล.บัวหลวง:
Media – เกาะกลุ่มสื่อนอกบ้านในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (NEUTRAL)
หุ้นกลุ่มสื่อยังคงถูกกดดัน เนื่องจากตลาดกำลังระมัดระวังต่อภาพแนวโน้มของเม็ดเงินโฆษณา ผู้ประกอบการสื่อโทรทัศน์ยังคงอยู่ในโหมดเฝ้าระวัง ดังนั้นเรามองว่ารอให้เห็นการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่ชัดเจนก่อน ทั้งนี้กลุ่มสื่อนอกบ้านน่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
เม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกบ้านในไตรมาส 1/66 ปรับตัวขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมปรับตัวลง 5% YoY ในเดือน ม.ค. – ก.พ. แบ่งเป็นกลุ่มสื่อโทรทัศน์ (ลดลง 15% YoY) สื่อในร้านค้า (ลดลง 10% YoY) สื่อกลางแจ้ง และบนระบบขนส่งสาธารณะ (ขึ้น 25% YoY) สื่อโรงหนัง (ขึ้น 12% YoY) และสื่อวิทยุ (ขึ้น 17% YoY) โดยเม็ดเงินโฆษณารวมที่ลดลง YoY เป็นผลมาจากกลุ่มแบรนด์ต่างๆ ยังคงไม่ปรับเพิ่มงบการโฆษณา จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ อิงจากข้อมูลที่เราอัพเดทกับบริษัทต่างๆ เม็ดเงินโฆษณาในเดือน มี.ค. สูงกว่าในเดือน ม.ค. และ ก.พ. สําหรับสื่อโรงหนัง รายได้จาก 5 หนังใหญ่ในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 433 ล้านบาท นำโดย Avatar (117 ล้านบาท) และ John Wick (104 ล้านบาท) เติบโต 86% YoY (ในไตรมาส 1/65 ไม่มีหนังที่ทำรายได้รวมได้เกิน 100 ล้านบาทเลย)
จํานวนสายตาบนสื่อนอกบ้านปรับตัวขึ้น YoY ในเดือน มี.ค. โดย BTSGIF รายงานจำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้า BTS ที่ 16 ล้านเที่ยวสําหรับเดือน มี.ค. ปรับตัว ขึ้น 87% YoY และ 7% MoM (ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด 22%) ขณะที่ BEM รายงานจำนวนผู้โดยสาร MRT เฉลี่ย/วันที่ 3.76 แสนเที่ยวในเดือน มี.ค. ปรับตัวขึ้น 97% YoY แต่ลดลง 5% MoM (สูงกว่าช่วงก่อนโควิด 14%) สําหรับทางด่วน จํานวนผู้โดยสารเฉลี่ย/วันอยู่ที่ 1.152 ล้านเที่ยว ปรับตัวขึ้น 19% YoY และ 2% MoM (ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด 11%) เม็ดเงินโฆษณาไตร มาส 1/66 เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยสื่อโทรทัศน์น่าจะเสียส่วนแบ่งไปให้กับทางสื่อนอกบ้านและโรงหนัง
ผู้นำในไตรมาส 1/66 ได้แก่ PLANB และ MAJOR
เราคาด 7 หุ้นกลุ่มสื่อที่เราให้คำแนะนำ จะรายงานกำไรหลักรวมที่ 105 ล้านบาทสําหรับไตรมาส 1/66 ลดลง 46% YoY และ 77% QoQ ซึ่งกดดันมาจากเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงตามปัจจัยทางฤดูกาล ในไตรมาส 1/65 รายได้ของสื่อนอกบ้านและโรงหนังถูกกระทบอย่างหนักจากผลกระทบของโควิด ในทางตรงกันข้ามสื่อโทรทัศน์ได้รับประโยชน์จากงบโฆษณาที่ไหลมาจากกลุ่มอื่นในช่วงนั้น ในปีนี้เราคาดจะเห็นภาพที่กลับกัน
เราคาด MAJOR จะเป็นผู้นำการเติบโต YOY ของกำไรในไตรมาส 1/66 ที่ 70 ล้านบาท เติบโต 192% YoY แต่ลดลง 8% QoQ ตามด้วย WORK โดยคาดกําไรหลักที่ 35 ล้านบาท เติบโต 52% YoY (แต่ลดลง 3% QoQ) หนุนจาก 2 คอนเสิร์ต เราคาดอัตราการใช้กำลังโฆษณาที่ดีขึ้นของ PLANB ในไตรมาส 1/66 จะหนุนรายได้ YoY แต่ต้นทุนค่าไฟที่สูงขึ้นจะกดดันอัตรากำไรขั้นต้น ดังนั้นเราคาดกำไรที่ 125 ล้านบาท เติบโต 20% YoY แต่ลดลง 40% QoQ สําหรับผู้ประกอบการโทรทัศน์ (นอกจาก WORK) เราคาดกำไรจะลดลง YoY และ QoQ โดย VGI น่าจะรายงานการขาดทุนหลักที่มากขึ้น YoY และ QoQ จากการรับรู้ขาดทุนที่มากขึ้นของ KEX
ไฮซีซั่นในไตรมาส 2/66
แบรนด์ FMCG ทั่วโลกจะยังคงระมัดระวังการเพิ่มงบโฆษณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจสื่อคาดจะฟื้นตัว QoQ จากปัจจัยทางฤดูกาล และมีสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของอัตราการใช้กำลังการโฆษณาในเดือน มี.ค. เทียบกับเดือน ม.ค. และ ก.พ. นอกจากนี้หนังใหญ่จากฮอลลีวูดกำลังจ่อคิวเข้ามาในช่วงไตรมาส 2/66 เราคาด PLANB WORK และ MAJOR จะเป็นผู้นำการเติบโตในไตรมาส 2/66