บล.บัวหลวง:
Supalai (SPALI TB/SPALI.BK)
SPALI – ไตรมาส 1/66 มากกว่าเราคาด แต่เป็นไปตามตลาดคาด
มากกว่าเราคาด แต่เป็นไปตามตลาดคาด
SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 8% YoY และ 48% QoQ ซึ่งมากกว่าที่เราคาด 15% (รายได้ค่าเช่าและรายได้บริการที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น) แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดขายโครงการคอนโดที่ลดลงและอัตรากําไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยที่ลดลง รายได้โครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 69 %, และโครงการคอนโด 31%) เพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลงอย่างมาก 42% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบ อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY แต่ลดลง 33% QoQ รายได้โครงการคอนโดอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 26% YoY และ 55% QoQ เนื่องจากไม่มีโครงการคอนโดเริ่มโอนในไตรมาส 1/66 อัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 36.4% ลดลงจาก 39.3% ในไตรมาส 1/65 และจาก 37.6% ในไตรมาส 4/65 เนื่องจากสัดส่วนยอดขายโครงการคอนโดที่ลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 13.8% เพิ่มขึ้น 90bps YoY และ 140bps QoQ (รายได้ที่ลดลง) รายได้จากส่วนแบ่งธุรกิจ อยู่ที่ 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY และ ทรงตัว QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งกําไรที่เพิ่มขึ้นจากโครงการร่วมทุนในออสเตรเลีย อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิทรงตัวอยู่ที่ 0.5 เท่า ณ สิ้นเดือน มี.ค.
แนวโน้ม
ในไตรมาส 2/66 กำไรหลักของ SPALI จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หลังจากเริ่มต้นอย่างช้าๆ ในไตรมาส 1/66 (ไตรมาสที่เปิดตัวโครงการต่ำสุดของปี 2566) SPALI มีแผนเปิดตัวที่อย่างมากในไตรมาส 2/66 มูลค่า 8.8 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 7 แห่ง คอนโด 1 แห่ง) ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 94% QoQ ดังนั้นยอดจองซื้อและการเติบโตของกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/66 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/66 และจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีในครึ่งหลังของปี 2566 ในไตรมาส 2/66 SPALI จะเริ่มโอนโครงการสุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ (มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท จองแล้ว 100%) ในไตรมาส 2/66 และ ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน มูลค่าโครงการ 2.3 พันล้านบาท, จองแล้ว 100%) ในไตรมาส 3/26 ซึ่งจะหนุนรายได้และอัตราทําไรขั้นต้นของ SPALI ตลอดปีนี้
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรหลัก 3 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 14% ของประมาณการกำาไรปี 2566 ของเราที่ 7.7 พันล้านบาท (และคิดเป็น 14% ของประมาณการตลาด) ลดลง 2% YoY เรายังคงประมาณกําไรทั้งปีไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
เราชอบ SPALI เนื่องจากศักยภาพในการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยในระดับสูง การเติบโตมากกว่าประมาณการของเราในไตรมาส 1/66 และมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ ราคาหุ้นของ SPALI ปรับตัวลงตั้งแต่รายงานของเราตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2566 เนื่องจากกำไรที่อ่อนตัวในไตรมาส 1/66 เรามองว่านี่เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสำหรับการราคาหุ้นที่จะปรับตัวขึ้นครั้งต่อไป เนื่องจากไตรมาส 1/66 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดสําหรับ SPALI หุ้นซื้อขายที่ระดับไม่แพง ที่ PER ปี 2556 ที่ 5.3 เท่า ซึ่งลดลงอย่างมากจากค่าเฉลี่ยปี 2549-64 ที่ 7.0 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ที่ 25 บาท อิงที่ PER ที่ 7.0 เท่า