บล.ทรีนีตี้:
ศุภาลัย – SPALI
ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 27.80 บาท / Upside/Downside +33% / Median Consensus 27 บาท
กำไร 1Q66 ตามคาด พร้อมโตต่อในทุกไตรมาส
- รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 1.08 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 50% QoQ และ 8% YoY
- Gross Margin ใน 1Q66 ที่ 36.44% อ่อนตัวลงทั้ง QoQ และ YoY จากสัดส่วนการโอนที่มีจากโครงการแนวราบที่ 69%
- ผลการดำเนินงานใน 1Q66 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี 2566 โดย 2Q66 คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ที่สูงกว่า 1Q66 และจะเริ่มการโอนโครงการคอนโดใหม่ 1 โครงการ ที่มียอดขาย 100%
- ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567 ที่ 7.95 พันล้านบาท และ 6.64 พันล้านบาท ตามลำดับ ปรับตัวลดลง YoY จากฐานที่สูง
- แนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 27.80 บาท
1Q66 Earnings Review
- SPALI รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 1.08 พันล้านบาท ใกล้เคียงที่เราคาดการณ์ที่ 1.09 พันล้านบาท เป็นการปรับตัวลดลง 50% QoQ และ 8% YoY โดยมีรายได้รวมที่ 5.73 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 41% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 5.5% YoY
- รายได้จากการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 5.64 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 41.5% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 5% YoY โดยที่เป็นสัดส่วนจากโครงการแนวราบที่ 69% และสัดส่วนจากโครงการคอนโดที่ 31% ลดลงจาก 44% ในช่วง 1Q65 เนื่องจาก 1Q66 ยังไม่มีการเริ่มโอนโครงการคอนโดใหม
- Gross Margin ใน 1Q66 ที่ 36.4% อ่อนตัวลงจาก 4Q65 ที่ 37.6% และจาก 1Q65 ที่ 39.3% เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากการโอนมาจากโครงการแนวราบที่ 69% สูงกว่า 1Q65 ที่ 56% ซึ่งโครงการแนวราบมี Gross Margin เฉลี่ยที่ 35% ต่ำกว่าคอนโดที่เฉลี่ย 39% ประกอบกับสัดส่วนการโอนโครงการคอนโดใน 1Q65 มาจากโครงการ Oriental Sukhumvit 39 ที่มี Gross Margin สูงกว่าโครงการอื่นๆ
- กำไรส่วนแบ่งจากการร่วมทุนอยู่ที่ 66 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 60% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 14% YoY โดยยังคงเป็นกำไรจากการขายโครงการที่ประเทศออสเตรเลีย
- รายงานยอด Presales 1Q66 ที่ 9,03 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 22% QoQ และ 2% YoY โดยเป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบที่ 6.41 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 34% QoQ และ 2% YoY และเป็นสัดส่วนของโครงการคอนโดที่ 2.62 พันล้านบาท, Flat QoQ และ YoY โดยยอด Presales รวมใน 1Q66 นับเป็น 25% ของเป้าที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567
- ผลการดำเนินงานใน 1Q66 คาดว่าเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการต่ำที่สุดของปี 2566 และกำไร 1Q66 นับเป็น 14% ของคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 7.95 พันล้านบาท โดยคาดว่ากำไรใน 2Q66 จะฟื้นตัวได้ QoQ จากการเริ่มโอนโครงการคอนโดใหม่ ได้แก่ โครงการ Supalai Loft Sathorn- Ratchapruek มูลค่า 1.46 พันล้านบาท และต่อด้วยโครงการ Supalai Premier Si Phraya-Samyan มูลค่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการมียอดขาย 100% ส่งผลให้ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 ที่ 7.95 พันล้านบาท โดยกำไรคาดว่ามีการปรับตัวลดลง YoY เล็กน้อย เนื่องจากมาจากฐานที่สูงในปี 2565 ทั้งนี้ SPALI มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวม 3.74 หมื่นล้านบาท เป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบ 27 โครงการ และคอนโด 3 โครงการ และมียอด Backlog รอโอนในปี 2566 ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท เป็นสัดส่วนมาจากโครงการแนวราบที่ 9.5 พันล้านบาท
ยอด Backlog รอโอนสูง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 27.80 บาท
เราแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 27.80 บาท จากการอิงผลประกอบการ 2565F และค่าเฉลี่ย P/E 7.5X โดย SPALI ถือว่าปลอดภัย เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากกลุ่มแนวราบสูงกว่า 60% และมี Backlog ที่แข็งแกร่งจากคอนโดที่ทยอยสร้างเสร็จ และมียอด Backlog รวม 1.53 หมื่นล้านบาท