บล.เคจีไอ:

BEC World คาดว่ากำไรจะโตอย่างแข็งแกร่งใน 4Q64

Event

ประชุมนักวิเคราะห์ 2Q64

Impact

กำไรใน 1H64 ถูกขับเคลื่อนโดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง กำไรสุทธิของ BEC ในงวด 1H64 อยู่ที่ 324 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิใน 542 ล้านบาทใน 1H64 เนื่องจากต้นทุนรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ และการขายบมจ. บีอีซี-เทโรเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (เทโร) ซึ่งมีผลขาดทุนออกไปตั้งแต่ 4Q63 ทั้งนี้รายได้ในงวด 1H64 ยังทรงตัว YoY อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท เนื่องจากใน 1H63 บริษัทยังบันทึกรายได้ 504 ล้านบาทจากเทโรอยู่ แต่หากไม่รวมรายได้จากเทโรในงวด 1H63 พบว่ารายได้จากค่าโฆษณาใน 1H64 จะเพิ่มขึ้น 24% YoY เป็น 2.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากทุกรายการโดยเฉพาะรายการข่าว ส่วนรายได้ค่าลิขสิทธิ์ใน 1H64 ลดลง 17% YoY เหลือ 416 ล้านบาทเนื่องจาก i) รายได้จากการขายคอนเทนท์ไปต่างประเทศ (Global Content Licensing-GCL) ลดลง (-37% YoY) เพราะมีละครเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ออกอากาศแบบคู่ขนานในประเทศไทยกับจีนใน 1H64 จากที่เคยมีสองเรื่องใน 1H63 และ ii) รายได้จากบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น 46% YoY (การออกอากาศบนแพลตฟอร์มดิจิทัล) ตามจำนวนพันธมิตรที่มีเพิ่มขึ้น

คาดผลประกอบการที่ชะลอตัวใน 3Q64 จะกดดันกำไรในงวด 2H64

รายได้ค่าโฆษณาของ BEC มีแนวโน้มจะลดลงเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงมากขึ้นจะกดดันยอดการซื้อสื่อโฆษณา แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ GCL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลง เนื่องจากมีการออกอากาศละครแบบรีรันในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลงไปได้บางส่วนโดย BEC พยายามเพิ่มรายได้ GCL ด้วยการหาตลาดใหม่ๆ อย่างเช่นญี่ปุ่นและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะทำการออกอากาศละครแบบคู่ขนานเพิ่มเติมเพื่อลดการพึ่งพิงตลาดจีน ทั้งนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการออกอากาศละครห้าเรื่องแบบคู่ขนานบนช่อง 33 และ Netflix ทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป ในขณะที่จะมีละครหนึ่งเรื่องออกอากาศแบบคู่ขนานผ่านเครือข่าย Netflix ใน 25 ประเทศในเอเซีย ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 4Q64 เนื่องจากคาดว่ารายได้จะกลับมาเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มดีขึ้น และผลบวกจากปัจจัยฤดูกาล

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564-65 ลงเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่ไม่สดใสใน 3Q64

เนื่องจากกำไรในงวด 1H64 คิดเป็น 44% ของประมาณการกำไรปีนี้ ในขณะที่กำไรมีแนวโน้มจะลดลงอีกใน 3Q64 เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2564-65 ลงจากการ i) ปรับลดสมมติฐานรายได้ปี 2564ข65 ลง 9% และ 7% ตามลำดับ เพราะเราปรับลดรายได้จากค่าโฆษณา และ GCL ลง ในขณะที่ปรับเพิ่มรายได้จากบริการดิจิทัลขึ้น ii) ปรับลดสมมติฐานต้นทุนปี 2564 ลง 9% และปี 2565 ลง 2% iii) ปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปี 2564-65 ลง 9%-10% ซึ่งหลังจากปรับสมมติฐานต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 ของเราลดลงจากเดิม 10%-18% เหลือ 664 ล้านบาทในปี 2564 และ 889 ล้านบาท (+34% YoY) ในปี 2565

Valuation and action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2565 ลงเหลือ 14.40 บาท (PER ที่ 32.3 เท่า) จากเดิมที่ 17.50 บาท และยังคงคำแนะนำซื้อ BEC

Risks

รายได้ค่าโฆษณาและ GCL ต่ำกว่าที่คาดไว้

- Advertisement -