บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +30.4%
Close May 9, 2023 Price 20.90
12M Target 27.25
SUPALAI กำไร 1Q66 ชะลอตัว YoY และ QoQ ตามคาด
Earnings Results
- บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 1.1 พันลบ. (-51.2% QoQ, -8.3% YoY) และรายได้ที่ 5.7 พันลบ. (-41.0% QoQ, +5.5% YoY) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด
- ผลประกอบการปรับตัวลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากรายได้ลดลง QoQ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในไตรมาสนี้ไม่มีการโอนโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่เหมือนใน 4Q66 ที่มีการโอนต่อเนื่องของ 2 โครงการแนวสูงที่สร้างเสร็จใหม่ในช่วงปลาย 3Q65 รวมถึงการรีบโอน ก่อนมาตรการผ่อนคลาย LTV จากภาครัฐจะสิ้นสุดลงตอนปลาย 4Q65 ขณะที่เทียบ YoY ลดลงจากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่แย่ลง
- อัตรากำไรขั้นต้น 1Q66 อยู่ที่ 36.6% ลดลง 100 bps QoQ และ 264 bps YoY จาก Product mix ที่มีสัดส่วนการโอนโครงการแนวราบต่อแนวสูงที่เพิ่มขึ้นเป็น 69% จาก 60% ใน 4Q65 และ 56% ใน 1Q65 (GPM แนวราบต่ำกว่าแนวสูง)
- อัตราส่วน SG&A/Sales เพิ่มขึ้น 138 bps QoQ และ 102 pps YoY มาอยู่ที่ 14.2% จากส่วนลดค่าธรรมเนียมการโอนปรับขึ้นเป็น 1% จาก 0.01% ตั้งแต่ต้น 1Q66
- ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าอยู่ที่ 66 ลบ. (-60.1%QoQ, +14.4%YoY) ปรับเพิ่มขึ้น YoY จากการเลื่อนกำหนดการโอนกรรมสิทธิ์มายังปี 2566
Our Take
- กำไรปกติ 1Q66 คิดเป็น 14.2% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเราที่ 7.6 พันลบ. (-7.1% YoY) โดยกำไรปกติของ SPALI มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากกำหนดการโอนโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการ (มูลค่ารวม 3.8 พันลบ., ขายแล้ว 100%) ใน 2Q66-3Q66 ทำให้ประมาณการของเรายังสมเหตุสมผล
- ปี 2566 เราคาดกำไรชะลอตัว 7% YoY จากฐานสูง เนื่องจากมีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนเพียง 2 โครงการ น้อยกว่าปี 2565 ที่มี 7 โครงการ อีกทั้งบริษัทมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มกลาง-ล่างเป็นส่วนมาก ทำให้อาจจะโดนกดดันจากมาตรการผ่อนคลาย LTV ที่สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการรับรู้รายได้ของบริษัทค่อนข้างชัดเจน มี Backlog ณ สิ้น 1Q66 ที่ 2.0 หมื่นลบ. และมีแผนรับรู้เป็นรายได้ปี 2566 ที่ 1.5 หมื่นลบ. คิดเป็น Secured Revenue 44% จากประมาณการรายได้ของเราที่ 3.5 หมื่นลบ. (+0.9% YoY)
- เราคาดผลประกอบการ 1Q66 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะดีขึ้นตามลำดับในช่วงที่เหลือของปี จากโครงการแนวสูงสร้างเสร็จพร้อมโอน 2 โครงการ และการฟื้นตัวของอัตราดูดซับอุปทานโครงการแนวสูงที่เพิ่มขึ้นจากชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 27.25 บาท/ หุ้น (อิง PER66 ที่ 7.0x) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER66 ที่เพียง 5.4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 7.0x และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 8.0x