คลายกังวล แต่ยังไม่สบายใจ / 1,560-1,580

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET Sideways แต่ลุ้นยก High ขึ้นต่อ: แรงหนุนของตลาดคาดมาจากการเปิดเผยเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยรวมออกมาในทิศทางที่ชะลอลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดย CME FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 93% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยรอบการประชุมเดือนมิ.ย. ทั้งการยุติดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดจะช่วยลดความกังวลภาวะศก. และเป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง คาดเป็น Sentiment ทางบวกต่อตลาด นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศยังมีความโดดเด่นเช่นกัน จากการเมืองไทยที่เดินหน้าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มการบริโภคและที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองยังมีแรงบวกได้ต่อ อีกทั้งคาดตลาดยังคงมีแรงเก็งกำไรในงบ 1Q66 ของบจ.ในไทย อย่างไรก็ดี ด้วยภาพความกังวลภาวะศก.ที่ลดลงแต่ยังไม่หมดไป ส่งผลให้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวออกข้าง เนื่องจากแรงกดดันดังนี้ 1) ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ หลัง ปธน.โบเดน และเควิน แมคคาร์ธี ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งจะเจรจากันอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. 2) การแสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นใน EU ของปธ. ECB ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องไป สอดรับกับเยอรมนีที่เผย CPI เดือนเม.ย.ที่ 7.2%y-y แม้ชะลอลงจากเดือนมี.ค. แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง และ 3) การเปิดเผยเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของจีนในวันนี้ ตลาดคาด CPI ขยายตัว 0.3%y-y ชะลอลงจาก 0.7%y-y และ PPI หดตัว 3.3%y-y จากหดตัว 2.5%y-y ทั้งนี้การชะลอลงของ CPI และการหดตัวของ PPI จะเป็นการสะท้อนว่าอุปสงค์ในประเทศและกิจกรรมทางศก.ของจีนฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่ตลาดคาดหวังไว้
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+เลือกตั้ง+เปิดเทอม: AEONTS, BCP, BEM, COM7, CPALL, CPN, CRC, HMPRO, ICHI, MAKRO, MTC, OSP, KTC, SAWAD 2) เก็งงบ: AOT, BGRIM, CK, GULF และ 3) Big Cap.: BBL, KBANK, PTT, SCB

ปัจจัยบวก

  • สมาคมธนาคารไทยเผยอยู่ระหว่างเร่งพิจารณาปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมทั้งระบบ โดยเฉพาะการเก็บค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมใช้เงินสด
  • CPCA เผยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีนพุ่งขึ้น 55.5% ในเดือนเม.ย. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น อย่างแข็งแกร่ง ข้อมูลยังเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์หรูในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 2.4 แสนคัน เพิ่มขึ้น 101% y-y
  • สหรัฐฯ เผยเงินเฟ้อเดือนเม.ย.1) CPI ขยายตัว 4.9% y-y ดีกว่าตลาดคาด และเดือนมี.ค. ที่ 5.0% y-y และขยายตัว 0.496 m-m เท่ากับตลาดคาด (หากแต่เร่งตัวขึ้นจาก 0.1% m-m ในเดือน มี.ค.) และ 2) Core CPI ขยายตัว 5.5% เท่ากับตลาดคาดและชะลอลงจาก 5.6% ในเดือนมี.ค. และขยายตัว 0.4% m-m เท่ากับตลาดคาดและเดือนมี.ค. ทั้งนี้ในภาพรวมตัวเลขดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณการลดลงต่อเนื่องของเงินเฟ้อ

ปัจจัยลบ

  • ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน เม.ย. พบว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 57% ลดลงจากเดือน มี.ค. ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 66% โดยลดลงในเกือบทุกภูมิภาคตาม การเข้าสู่ช่วง low season ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และปัญหาฝุ่นควันที่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในภาคเหนือ
  • สำนักงานกํากับดูแลทางการเงินของรัฐบาลกลางเยอรมนี เผยว่าระบบธนาคารของประเทศกำลังเผชิญกับ Stress Test ในชีวิตจริง ท่ามกลางความผันผวนในขณะนี้ และคาดว่าภาคอสังหาฯ เชิงพาณิชย์จะประสบกับภาวะอ่อนแอครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน

PICKS OF THE DAY

CK BUY

  • เป้าหมาย 22.50/23.00 แนวรับ 21.50/21.70
  • ได้ประโยชน์หลังการเลือกตั้ง: ทางฝ่ายคาดว่าเมื่อการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น จะหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมาเพื่อรอรับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ โดยไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาล การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจะต้องดำเนินการต่อไป
  • มองไปข้างหน้าคาด 2H66 จะเริ่มฟื้นตัว: แม้ว่าทางฝ่ายจะคาดงบ 1Q66 ที่จะเผยในต้นสัปดาห์หน้าจะไม่โดดเด่น จากแรงกดดันต้นทุนด้านเงินเฟ้อ, การรับรู้ต้นทุนค่าวัสดุ น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แต่คาดปัจจัยดังกล่าวได้สะท้อนจากราคาที่ปรับลงไปก่อนหน้าไปแล้ว มอง 2H66 มีโอกาสรับรู้งานทั้งไทยและต่างประเทศมากขึ้น ลุ้น Backlog แตะ 2.6 แสน ลบ.

KBANK BUY

  • เป้าหมาย 140.00/143.50 แนวรับ 130.50/131.50
  • กำลังจะเริ่มรอบการเพาะปลูก: KBANK เป็นธนาคารที่มีลูกค้ากลุ่มเกษตรกรอยู่มาก น่าจะทำให้ความต้องการสินเชื่อมีเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อ และรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
  • ลุ้น Fund flow เข้า: KBANK เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด หาก Fund flow ไหลเข้ามาใน SET คาดว่า KBANK จะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติด้วย
- Advertisement -