บล.บัวหลวง:
Indorama Ventures (IVL TB/IVL.BK)
IVL – ต่ำกว่าคาด แต่คาดกำไรเติบ QoQ ในไตรมาส 2/66
ต่ำกว่าคาด
IVL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 1,023 ล้านบาท ลดลง 93% YoY แต่พลิกกลับจากรายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/65 หากไม่รวมรายการพิเศษ กําไรหลักจะอยู่ที่ 2,172 ล้านบาท ลดลง 79% YoY แต่เพิ่มขึ้น 56% QoQ ผลประกอบการต่ำกว่าคาดการณ์กำไรสุทธิของเรา (ที่ 2 พันล้านบาท) และตลาด (ที่ 1.2 พันล้านบาท) เนื่องจากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงกว่าคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
ขาดทุนพิเศษจากสินค้าคงคลัง (เทียบกับกำไรพิเศษจากสินค้าคงคลังในไตรมาส 1/65) และผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลง เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กําไรสุทธิปรับตัวลดลง YoY แต่ในแง่ของ QoQ ขาดทุนพิเศษที่ลดลงและผลการดำเนินงานหลักของ IVL ที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิฟื้นตัว QoQ ในด้านการดำเนินงาน ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรหลักปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) กำไรที่ลดลงจากทุกธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ PET, ธุรกิจ Integrated Oxide & Derivatives (IOD), และธุรกิจไฟเบอร์ (ปริมาณขายที่ลดลงและส่วนต่างราคาที่ลดลงจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว), 2) ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น, และ 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.3% จาก 9.5% ในไตรมาส 1/65 ปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของกำไรหลัก QoQ ได้แก่ กำไรที่เพิ่มขึ้นจากทุกธุรกิจ (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่มากขึ้น) โดยสรุปปริมาณขายของ IVL ในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 3.4 ล้านตัน (ลดลง 10% YoY แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ) และ core EBITDA/ตัน เฉลี่ยอยู่ที่ 101 เหรียญสหรัฐ (ลดลง 41% YoY แต่เพิ่มขึ้น 22% QoQ)
แนวโน้ม
เราคาดว่ากําไรหลักของ IVL จะขยายตัว QoQ ในไตรมาส 2/66 หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น, ส่วนต่างราคา PET ตลาดจร [ทางเอเชียและฝั่งตะวันตก] ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนพลังงานที่ลดลง โดยปกติแล้วไตรมาสที่สองจะเป็นช่วงไฮซีซั่นสําหรับอุปสงค์ PET ดังนั้นส่วนต่างราคา PET มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น QoQ ในแง่ YoY กำไรหลักของ IVL คาดว่าจะลดลง ซึ่งถูกกดดันโดยส่วนต่างราคาบางผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง เช่น ส่วนต่างราคา PET ตลาดจร (ทางเอเชียและฝั่งตะวันตก) และส่วนต่างราคา MTBE อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคา PET (ทางฝั่งตะวันตก) ตามสัญญา และส่วนต่างราคา MEG ที่เพิ่มขึ้น น่าจะช่วยบรรเทาการปรับตัวลดลง YoY ของกำไรหลักได้บางส่วน
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
แม้กำไรหลักไตรมาส 1/66 จะคิดเป็นเพียง 10% ของประมาณการกำไรหลัก ปี 2566 ที่ 21,014 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการกําไรหลักไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเราคาดว่ากำไรหลักจะแข็งแกร่งขึ้นตลอดช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2566
คําแนะนํา
คาดการณ์กำไรหลักเติบโตแข็งแกร่ง QoQ ในไตรมาส 2/66 จะหนุนราคาหุ้นต่อไป มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2566 ที่เพียง 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.8 เท่าอยู่ 1.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายของเราจากการ ลงทุน/หรือการเข้าซื้อกิจการใหม่