CPW เปิดตัวโค้งแรกปีนี้กำไรโต 14.32% สินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ดันอัตรากำไรขั้นต้นพุ่งแตะ 12.40%
บมจ.คอปเปอร์ ไวร์ด หรือ CPW เปิดงบการเงินไตรมาส 1/2566 รายได้พุ่งแตะ 1,944.03 ล้านบาท โต 8.30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไร 20.28 ล้านบาท พุ่ง 14.32% ด้านอัตรากำไรขั้นต้นยังสูงที่ระดับ 12.40% จากแรงหนุนของสินค้าประเภทดิจิทัลไลฟ์สไตล์ คาดดันรายได้รวมปีนี้โตอย่างน้อย 20% ตามเป้า
นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุด 31มีนาคม 2566) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,944.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.30% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,794.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.32%จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17.73 ล้านบาท
โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 102สาขา ประกอบด้วย ร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) จำนวน 24 สาขา, ร้าน Apple Brand Shop จำนวน 24 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 16 สาขา U.Store by copperwired จำนวน 7 สาขา และ Ai_ จำนวน 1 สาขา), ศูนย์บริการ iServe จำนวน 3สาขา, ร้าน AIS จำนวน 27 สาขา, Samsung จำนวน 19 สาขา และ ร้าน Xiaomi จำนวน 5สาขา
สำหรับรายได้จากการขายและบริการสุทธิในไตรมาส 1/2566 จำนวน 1,927.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวน 150.54 ล้านบาท หรือ 8.47% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต และสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์
ขณะที่กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2566 มีจำนวน 238.94 ล้านบาท หรือ 12.40% ของรายได้จากการขายและบริการ จากปีก่อนหน้ามีจำนวน 218.18 ล้านบาท หรือ 12.28% ของรายได้จากการขายและบริการซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการ ขายสินค้าประเภทสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายสูงกว่าสินค้าประเภทอื่น
“ปี 2566 เป็นยุคของสินค้าเทคโนโลยีดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะเติบโตสูงตามความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่โครงการ ช้อปดีมีคืนที่เริ่มต้นวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566ส่งผลดีต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย และส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2566 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2566 ยอดขายรวมจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะสนับสนุนให้รายได้ของ CPW เติบโตได้อย่างน้อย 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายปรเมศร์ กล่าว
