บล.ฟิลลิป:

ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ – JUBILE รอฟื้นตัว 4Q64 บนความคาดหวังท่ียังมีโอกาสเป็นไปได้

การระบาด COVID-19 ระลอกใหม่คาดยังกดดันผลดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี

จากผลดำเนินงานช่วง 2Q64 ที่ออกมามีกำไรสุทธิลดเหลือ 27 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดรายไตรมาสนับตั้งแต่ 4Q57 บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในปัจจุบันที่ยังคงยืดเยื้อ ทำให้ทางฝ่ายมีความกังวลต่อผลดำเนินงานของ JUBILE ในช่วงที่เหลือของปีจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว รวมถึงช่องทางจำหน่ายที่ถูกสั่งปิดตามคำสั่งภาครัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราว 55-60% ของจำนวนสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น 127 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาภายใต้แบรนด์ JUBILE 119 สาขา และสาขาภายใต้แบรนด์ FOREVERMARK 8 สาขา

ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นสัดส่วนน้อยไม่ครอบคลุมยอดขายหน้าร้านที่หายไป

แม้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ไม่ใช่สินค้าทุกประเภทจะสามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงอย่างเครื่องประดับ ด้วยเหตุนี้ทางฝ่ายจึงประเมินยอดขายออนไลน์ของ JUBILE คาดเป็นเพียงแค่ส่วนเสริมที่ยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับยอดขายหน้าร้านที่หายไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงโอกาสในอนาคตที่ JUBILE จะได้รับภายหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ทางฝ่ายมองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจากการสร้างแบรนด์ JUBILE ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้ทำการพิสูจน์ในช่วงเวลาปัจจุบันแล้วพบว่า ยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเคยซื้อสินค้าของบริษัทเป็นครั้งแรกสูงถึง 80% ดังนั้นทางฝ่ายจึงคาดจะส่งผลดีต่อ Traffic ระยะยาวในการเดินเข้าร้าน JUBILE ของลูกค้าที่มีโอกาสเพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ตลอดจนเป็นการเพิ่มขึ้นของฐานสมาชิกของ JUBILE จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วกว่า 180,000 ราย

ช่องทางการเพิ่มผลตอบแทน ผ่านการลงทุนเพชรกะรัต

นอกเหนือจากการสวมใส่เครื่องประดับเพื่อความสวยงามแล้ว ปัจจุบันทางฝ่ายยังมองเป็นหนึ่งในทางเลือกของการลงทุน ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการฝากเงินในบัญชีที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำผ่านการลงทุนเพชรกะรัต ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ของยอดขายรวม โดยทาง JUBILE จะมีการจัดงานแสดงสินค้าเพชรกะรัตเป็นประจำในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ดังนั้นในปี 64 นี้หากสถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติและภาครัฐฯ อนุญาตให้มีการจัดงานได้ ทางฝ่ายประเมินแนวโน้มยอดขายคาดมีการฟื้นตัวเด่น q-q โดยมีตัวช่วยจากการจัดงานดังกล่าว

ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 65 ที่ 25.25 บาท ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ”

เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไร 3Q64 ที่อาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ะบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อการปิดสาขาตามคำสั่งภาครัฐฯ แต่คาดหวังการฟื้นตัวที่กลับมาโดดเด่น q-q ในช่วง 4Q64 ภายใต้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการปกติ ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายรวมโตเด่น q-q จากยอดขายหน้าร้าน, ยอดขายออนไลน์ ตลอดจนการจัดงานแสดงสินค้าที่คาดจะจัดขึ้น 2 งาน ได้แก่ งาน JUBILE Grand Sale ที่เลื่อนจัดจากปกติช่วงไตรมาส 2 ของทุกปี และงานเพชรกะรัตที่กล่าวไปข้างต้น ทางฝ่ายคาดกำไรสุทธิปี 64 จะอยู่ที่ 194 ล้านบาท หดตัว 27.3% y-y ก่อนกลับมาเติบโตในปี 65 เบื้องต้นคาดโต 26.5% y-y ท่ามกลางสถานการณ์ที่เป็นปกติมากขึ้น ทั้งนี้ทางฝ่ายปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 65 ที่ 25.25 บาท (อิง P/E 18x) ซึ่งจากราคาหุ้นปัจจุบันพบว่ายังมีส่วนต่างจากราคาพื้นฐาน อีกทั้งยังมีเงินปันผลสำหรับ 1H64 ที่ 0.15 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. และจ่ายปันผลวันที่ 10 ก.ย. 64 ทางฝ่ายเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิม “ถือ” 

- Advertisement -