CENTEL แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Central Plaza Hotel (CENTEL TB) ราคาสะท้อนแนวโน้มบวกแล้ว

คงแนะนำ ถือ ลด TP ลง 0.6% จากผลกระทบโควิดปี 64

เราคงประมาณการกำไรหลักตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป แต่เพิ่มคาดการณ์ผลขาดทุนสำหรับปี 64 ขึ้น 360% จากสถานการณ์ Covid ในไทยที่รุนแรงและยืดเยื้อเกินคาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้ในปี 65 และ CENTEL จะมีกำไร 200 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อราคาหุ้น แม้จะมองในแง่ดีว่าจะไทยเปิดประเทศได้ในไตรมาส 4/64 แต่ราคาหุ้น CENTEL สะท้อนปัจจัยเหล่านั้นไปแล้ว เนื่องจากใกล้เคียงกับระดับก่อนโควิด ในไตรมาส 3/62 ขณะที่แนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังท้าทายอยู่

ขาดทุนมากใน 2Q64 ต่อเนื่องใน 3Q64

ในไตรมาส 2/64 CENTEL ขาดทุนหลักอยู่ที่ 651 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%QoQ และ 42%YoY เนื่องจากสถานการณ์ Covid ที่รุนแรงในไตรมาสนี้ ส่วนไตรมาส 3/64 สถานการณ์โควิดรุนแรงขึ้น QoQ เนื่องจากอัตราการเข้าพักในธุรกิจโรงแรมลดลง และยอดขายต่อร้านอาหาร (SSS) คงที่ ในธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในวงกว้าง ธุรกิจอาหารสร้างรายได้ประมาณ 60% ของรายได้ปกติซึ่งทรงตัวได้ และทำกำไรมากขึ้นในช่วงโควิด เราคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมในปี 64 จะอยู่ที่ 22% (ต่ำกว่า 27% ในปี 63 เนื่องจาก 1Q63 เป็นช่วงก่อนเกิดโควิด) และเพิ่มขึ้นเป็น 48% ในปี 65 และ 52% ในปี 66 สำหรับธุรกิจอาหาร เราคาดการณ์ว่า SSS จะลดลง 7% ในปี 64 และเติบโต 3% ในปี 65 เนื่องจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น

เปิดประเทศในไตรมาส 4/64 ตามแผน

เราเชื่อว่าไทยจะสามารถเปิดประเทศได้ภายในเดือน ต.ค. 54 นี้ เนื่องจากตอนนี้มีวัคซีน 75.9 ล้านโดสซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับฉีดเข็มแรกให้ 70% (50 ล้านคน) ของประชากรไทย ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญในการเปิดประเทศ และจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวไทยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังการฟื้นตัวในระยะยาว เนื่องจากเราเชื่อว่าการฟื้นตัวจะช้าและค่อยเป็นค่อยไป

การฉีดวัคซีนล่าช้าเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ

เราใช้วิธี DCF (WACC 6.5%, เติบโต 3.1%) ประเมินราคาเป้าหมายและใช้ราคาเป้าหมายปี 65 การฉีดวัคซีนถือเป็นความเสี่ยงหลัก เนื่องจากความล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อการเปิดพรหมแดนในไตรมาส 4/64 และการฟื้นตัวของ CENTEL