COM7 ประกาศผลงาน Q1/66 กวาดรายได้ 17,309 ลบ. พร้อมเดินหน้ารุกสินค้ากลุ่มไฮมาร์จิ้นเพิ่ม

COM7 โชว์งบ Q1/66 แข็งแกร่ง ทำรายได้รวม 17,309 ลบ. โต 18% ทำกำไร 874 ลบ. เพิ่มขึ้น 12% รับการท่องเที่ยวกลับมา ดีมานด์ผู้บริโภคหนุน ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้น ขณะที่ ยอดขายจากสาขาเดิมเติบโต และการขยายสาขาใหม่เพื่อสนับสนุนอาณาจักรค้าปลีก COM7 ครอบคลุมทั่วประเทศ ณ สิ้นมีนาคม มี 1,284 สาขา มุ่งเน้น Stand Alone และแพลตฟอร์มออนไลน์เสริมทัพกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) นอกจากนี้ ลุยธุรกิจใหม่เติมพอร์ตสินค้าไฮมาร์จิ้น มั่นใจ ปูพรมธุรกิจค้าปลีกมุ่งสู่การเติบโตด้วยฐานกำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 17,309.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9% กำไรขั้นต้น 2,375.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 873.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6%

ภาพรวมผลการดำเนินงานที่เติบโต เนื่องจากกิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงปัจจัยสนับสนุน อาทิ มาตรการภาครัฐในเรื่อง “ช้อปดีมีคืน 2566” และปัจจัยด้านโครงสร้างอื่น ๆ สนับสนุนการจับจ่ายใช้สอย และการขยายตัวของการลงทุนให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่เป็นรายได้หลักของ COM7 ยังคงมีการเติบโตที่ดี คือ Smartphone , Accessories และสินค้ากลุ่ม Tablet ขณะที่ภาพรวมกำไรขั้นต้นที่เติบโตส่วนหนึ่งมาจากสินค้า House Brand ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Accessories ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง รวมทั้ง COM7 ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสีย จำนวน 45.5 ล้านบาท เติบโต 25.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 128.6% จากผลการดำเนินงานประจำงวดของบริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

ขณะที่ภาพรวมสาขาภายใต้การบริหารของ COM7 ในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีสาขาจำนวน 1,284 สาขา เพิ่มขึ้น 124 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,160 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, KingKong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store และ Brand shop

ภาพรวมธุรกิจในช่วง Q1/66 ถือว่าเติบโตตามกลยุทธ์ที่เราวางไว้ ทั้งการเติบโตจากรายได้สาขาเดิม (Same Store Sales Growth) ที่ 10% และกลยุทธ์การลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและช่องทางจำหน่ายทั้งภายในห้างสรรพสินค้า และรูปแบบ Stand alone นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจโมเดลใหม่ในนามของ “BeBePhone” สำหรับเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่ม Accessories รวมถึง การโฟกัสกลุ่มสินค้า House Brand เพื่อการเติบโตสินค้าที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง

อีกทั้ง การเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Studio7Thailand ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ควบคู่กับการขายผ่านหน้าร้าน เดินตามกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) ได้อย่างประสบความสำเร็จ และบุกงาน Event ต่างๆ นับเป็นการเดินหน้ากิจกรรมเต็มกำลังหลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย จึงมั่นใจภาพรวมปีนี้ รายได้รวมจะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน

 

- Advertisement -