เฝ้ารอให้พายุผ่านพ้นไป / 1,530-1,550
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways: ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขทางศก.ของจีนและสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาด หลังจีนเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนเม.ย.ขยายตัวเพียง 5.6% y-y และ 4.7% y-y ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 10.9% y-y และ 5.7% y-y ตามลำดับ บ่งชี้ว่าศก.จีนยังคงฟื้นตัวอย่างอ่อนแรง ด้านสหรัฐฯ ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Home Depot และการรายงานยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% m-m ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% m-m สะท้อนให้เห็นว่าศก.สหรัฐฯชะลอตัวลง หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดยังคงสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ประเด็นปัญหาเพดาหนี้สหรัฐฯ หลังการพูดคุยกันเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้เควิน แมคคาร์ธีจะเผยว่าเป็นไปได้ที่จะได้ข้อตกลงภายในสิ้นสัปดาห์นี้ แต่ว่าทั้งสองฝ่ายยังคงห่างไกลกันในข้อตกลงที่จะขยายเพดานนี้ เว้นแต่โจ ไบเดนจะตกลงที่จะลดการใช้จ่ายในงบประมาณของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ดี ทางลงของตลาดคาดถูกจำกัดด้วยภาพการบริโภคและท่องเที่ยวของไทยที่ยังฟื้นตัวได้ดี ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว นอกจากนี้คาดมีแรงเก็บสะสมหุ่นที่พื้นฐานดี แต่ราคาปรับตัวลงมาในช่วงสองวันที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับการเมืองไทย รวมถึงรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว+ศก.ไทยฟื้น: AAV, AEONTS, BA, BBL, BCP, CRC, ICHI, KTB, KTC, M, MINT, MTC, OR, OSP 2) ยานยนต์+EV: AH, BYD, SAT และ 3) หุ้นพื้นฐานดีน่าสะสม: ADVANC, MAKRO, SIRI
ปัจจัยบวก
- กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินเบื้องต้นคาดว่าภาพรวมของเดือนพ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคน ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 พ.ค. ถึง 14 พ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 9.47 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 391,778 ลบ.
- ญี่ปุ่นเผย GDP1Q66 ที่ระดับ +1.6% y-y และ +0.4% q+q สูงกว่าตลาดคาดที่ +0.7% y-y และ +0.1q-q และปรับตัวดีขึ้นจาก -0.1% y-y และ 0.0% q-q ใน 4Q65
- ยานนิส สตูร์นาราส สมาชิกคณะมนตรีบริหารของ ECB และผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ เผยว่าการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้ว
ปัจจัยลบ
- ส.อ.ท.เผย TISI เดือนเม.ย. ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจาก 97.8 ในเดือนมี.ค. และปรับตัวลดลงครั้งแรกใน 4 เดือน จากการชะลอตัวของภาคการผลิต เนื่องจากวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่อุปสงค์ต่างประเทศยังคงอ่อนแอ
- ปธ.เฟดนิวยอร์กเผยเฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง และยังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ด้านปธ.เฟดคลีฟแลนด์ส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไป
- บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า Morgan Stanley เล็งปลดพนักงาน 7% ในแผนกวาณิชธนเอเชียลง โดยจีนจะได้รับผลกระทบมากสุดจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เสื่อมถอยลง และศก.ที่ชะลอตัวลงของจีน
PICKS OF THE DAY
OR BUY
- เป้าหมาย 23.20 / 24.00 แนวรับ 22.00 / 22.30
- ค่าการตลาดยังแข็งแกร่ง: ทางฝ่ายคาดค่าการตลาดของธุรกิจน้ำมันจะกลับสู่ภาวะปกติ และสามารถทรงตัวได้ระดับราว 1 บาท/ลิตร ใน 2Q66 เนื่องจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง
- การท่องเที่ยวหนุนทั้งธุรกิจน้ำมัน และ Lifestyle: แนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เป็นปัจจัยบวกต่อปริมาณการขายน้ำมันของ OR โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน ที่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีสุดในกลุ่ม นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อยอดขายของธุรกิจ Lifestyle ซึ่ง OR มีแผนในการขยายสาขา Café Amazon อย่างต่อเนื่อง
SIRI BUY
- เป้าหมาย 1.86 / 1.90 แนวรับ 1.73 / 1.76
- กำไร +423%y-y: SIRI รายได้โตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก, อัตรากำไรขั้นต้นเติบโต y-y, ต้นทุนทางการเงินลดลงสวนทางอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จากการนำ Land bank มาพัฒนามากขึ้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยเข้าไปเป็นต้นทุนพัฒนาอสังหา และมีรับรู้กำไรจากการขายโรงเรียนอีก 623 ลบ. ดันกำไรสุทธิขึ้นมาที่ 1,582 ลบ. +423%y-y
- ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน: ปัจจุบันราคาหุ้นลดลง เป็นผลกระทบมาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจหากเทียบกับผลประกอบการที่ทำได้ เพราะทำให้ PE ต่ำลงอยู่ที่ 6.7 เท่า มองเป็นโอกาสลงทุนเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน