ช.การช่าง เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 รุ่น ระหว่าง 3.20 – 4.15% ต่อปี อันดับเครดิต A- พร้อมเสนอขาย 22-24 พ.ค. 2566 ผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
ช.การช่าง บริษัทผู้รับเหมาชั้นนำระดับภูมิภาค เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 รุ่นที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ประกอบด้วย รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 4.15% ต่อปี พร้อมเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2566 ผ่านธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย เผยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- แนวโน้ม “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ขณะที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายระบุกระแสตอบรับดี เพราะนักลงทุนแสวงหาหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade รวมทั้งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างที่สามารถรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทุกรูปแบบ และมีความสามารถในการพัฒนา ลงทุน และบริหารโครงการสัมปทานระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศและระดับภูมิภาคอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาออกหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนรายย่อย หลังจากที่บริษัทห่างหายจากการออกหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อยไปนาน รวมถึงอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ที่กำลังจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนนั้น เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นกู้ในระดับ Investment Grade จากบริษัทที่มีความมั่นคงด้วย
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ ช.การช่าง จำนวน 4 รุ่น มีดังนี้ รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี ขณะที่อีก 3 รุ่น ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ได้แก่ รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 3.80% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.15% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร สะท้อนสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย ที่มีความสามารถในการรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการที่มีความซับซ้อน และมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์
ปัจจุบัน บมจ.ช.การช่าง ดำเนินธุรกิจการก่อสร้าง ทั้งระบบขนส่งมวลชน ท่าอากาศยาน ถนน ทางด่วน สะพาน พลังงาน ระบบน้ำและท่าเรือ และธุรกิจการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค ด้วยการเป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคด้านต่างๆ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประกอบธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษ รวมถึงบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า ในสัดส่วน 33.37% บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตจำหน่ายน้ำประปาและบริหารจัดการน้ำเสีย ในสัดส่วน 19.40% และถือหุ้นในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ผู้ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ในสัดส่วน 30.00% (ข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)
ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ช.การช่าง ระบุว่า หุ้นกู้ ช.การช่าง ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้ลงทุน โดยมีผู้ลงทุนสอบถามรายละเอียดการจองซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะทำการเสนอขายในระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นกู้ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน มาจากความหลากหลายของอายุหุ้นกู้ ที่มีทางเลือกให้ผู้ลงทุนมากขึ้น ด้วยผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- ขณะเดียวกัน แนวโน้มธุรกิจของ ช.การช่าง ยังคงเติบโตจากงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่รอลงนามหลายโครงการ ในปี 2566 นี้ เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มูลค่า 98,000 ล้านบาท งานซ่อมบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีม่วง (ฉลองรัชธรรม) และสายสีน้ำเงิน (เฉลิมรัชมงคล) มูลค่า 1,630ล้านบาท และงานก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ – เชียงราย ตอน 3 มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้งานในมือ (Backlog) ณ ช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ของ ช.การช่าง เร่งตัวทะลุกว่า 1.5แสนล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ โดยยังไม่รวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่า 109,216ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ปลายปี 2566 รวมถึงการที่บริษัทในกลุ่ม ได้แก่ BEM, TTW และ CKP ยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ ช.การช่าง ที่เป็นผู้ลงทุนทั่วไป สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ติดต่อผ่าน 2 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน
https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=521030&SD=2205256624052566