วันนี้คาดตลาด “Rebound”
แนวรับ 1,520 / 1,507 แนวต้าน 1,536 / 1,540 ผ่อนคลายเก่ียวกับการผิดนัดชำระหน้ีของสหรัฐ รวมทั้งคาดรัฐบาลไทยสามารถจัดตั้งได้
Our View? “ผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง”
คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับบริเวณ 1,520 / 1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,536 / 1,540 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการออกกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังปธน. โจ ไบเดน และคุณเควิน แบคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่งสัญญาณเตรียมบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐร่วมกันภายในสัปดาห์นี้ ช่วยให้รัฐบาลสหรัฐรอดพ้นภาวะ Government Shutdown และสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดการเงินโลกผันผวนรุนแรงได้ อีกทั้งเราคาดว่าตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการที่ Western Alliance Bancorporation รายงานยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น ช่วยลดทอนความกังวลเกี่ยววิกฤตธนาคารสหรัฐได้ คาดประเด็นดังกล่าวอาจช่วยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม เรายังเห็นการเคลื่อนไหวของ Dollar Index เร่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นอีกครั้งที่ระดับ 102.8+/- พร้อมทั้ง 10 Year US Bond Yield ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ที่ระดับ 3.56% +/- บ่งชี้ตลาดยังอยู่ในภาวะ Risk-off คาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายท่านยังคงสนับสนุนให้ FED คงอัดราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ และบางท่านสนับสนุนให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพื่อกดดันทิศทางเงินเฟ้อ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools สะท้อนว่าตลาดปรับคาดการณ์การปรับดอกเบี้ยลงเร็วสุดไปเป็นเดือน พ.ย. หลังจากก่อนหน้า คาด เดือน ก.ย. เรามองประเด็นดังกล่าวยังสามารถจํากัด Upside ของตลาดได้อยู่ อีกทั้งวันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐต่อ รวมทั้งพรุ่งนี้ติดตามการรายงานผลการประชุม FOMC รอบเดือน พ.ค. เพื่อหาสัญญาณถึงแนวโน้มนโยบายทางการเงินของ FED ในระยะถัดไป
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. รีบาวด์กลับขึ้นได้ปิดที่ระดับ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.97 ดอลลาร์ (+2.78%) ได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการผิดนัดบ่าระหนี้ของสหรัฐเช่นกัน คาดจะหนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เมื่อคืนนี้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสด็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ออกมาเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางจากที่ตลาดคาดว่าจะลดลง สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ อ่อนแอ คาดจะจำกัด Upside ราคาน้ำมันได้เช่นกัน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่พรรคก้าวไกล-พรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณถึงการจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ตลาดในปัจจุบันยังคงกังวลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้เสียงใน 2 สภารวมกันมากกว่า 376 เสียง แต่เราคาดว่า สส. บางกลุ่ม และ สว. บางกลุ่มมีโอกาสโหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติของประชาชน คาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้ ในทั้งนี้เรายังมองว่าตลาดหุ้นไทยความกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับความเสี่ยงของหุ้นขนาดใหญ่ อาจเผชิญความเสี่ยงจากนโยบายไม่เอื้อกลุ่มทุนผูกขาดของพรรคก้าวไกล หลังสามารถได้คะแนนเสียงสูงสุด และเป็นแกนน่าหลักในการจัดตั้งรัฐบาล เราเชื่อว่าการออกนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จะส่งผลกระทบเชิงลบด่อนในกลุ่มทุนผูกขาด อาจจะส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานรัฐ อาทิ โรงไฟฟ้า-พลังงาน โดยเฉพาะสัญญาใหม่ ขณะที่หุ้นกลุ่ม อาทิ สื่อสาร-ค้าปลีก กลุ่มลูกค้าหลักเป็นประชาชนทั่วไป คาดจะได้รับผลกระทบที่จํากัด อย่างไม่มีนัยสำคัญ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง โดยเรายังขอบหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) จากผลประกอบการ 1Q66 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด พร้อมทั้ง 2Q′66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ 2). หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นด้วในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ 3). หุ้นในกลุ่มสถานประกอบการนํ้ามัน OR และ PTG เรามองแนวโน้มค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น จากราคานํ้ามันดิบที่ลดลง ขณะที่แรงกดดันค่าการตลาดน้ำมันดีเชลผ่อนคลายลง จากช่วงคุมราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลไม่เกิน 35 บาทหมดไป รวมทั้งคาดได้รับแรงหนุนจากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว คาดจะหนุนทิศทางกำไรในช่วง 2Q66 ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “OR”
- แนวโน้มค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น ตามแรงกดดันจากช่วงคุมราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลไม่เกิน 35 บาทหมดไป
- ทางเทคนิค ลงทดสอบเส้นแนวโน้มขาขึ้นทำรูปแบบ Hammer แนะซื้อสะสม
- กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 22.50 / 22.10 Target 23.40 / 25.00 Stop <21.80