วันนี้คาดตลาด “Rebound”

แนวรับ 1,520 / 1,507 แนวต้าน 1,536 / 1,540 ยังอยู่กับ Sentiment เชิงบวกจาก การบรรลุข้อตกลงเก่ียวกับการเพิ่มเพดานหน้ีสหรัฐ

Our View? “ความพยายาม”

คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,520 / 1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,536 /1,540 คาดยังคงได้รับจิตวิทยาเชิงบวก จากความคืบหน้าในการผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ โดยคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสได้ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะมีการลงญัตติกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดการเงินโลกผันผวนรุนแรงได้ อีกทั้งเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมา 2.54 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้  สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ CME FED Watch Tools เริ่มมีการปรับขึ้นน้ำหนักที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. นี้เพิ่มขึ้นบ้าง จากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังอยู่ในระดับที่สูง และเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านมีการส่งสัญญาณถึงโอกาสที่ FED ยังคงสามารถขึ้นได้ต่อในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอยู่ในภาพการแข็งค่าต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 103.5+/- พร้อม 10-Year US Bond Yield ปรับตัวขึ้นต่อ เช้านี้อยู่ที่ระดับ 3.64%+/- เรายังมองเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ อย่างไรก็ตามเรายังคงคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปที่ระดับ 5.00-5.25% เพื่อรอดูผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐจนถึงในช่วง 4Q′66 ซึ่งคาดมีโอกาสที่สหรัฐจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และทำให้ FED จะเริ่มส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงนั้น

ทั้งนี้วันนี้เราแนะนำติดตามการรายงานการประชุม FOMC รอบเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาคาดจะเห็นแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ได้มากขึ้น ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. รีบาวด์กลับขึ้นได้ปิดที่ระดับ 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.97 ดอลลาร์ (-1.33%) คาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ จากความไม่แน่นอนเกี่ยวทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ คาดจะส่งผลให้ตลาดกังวลการเกิดภาพเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ และส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันในสหรัฐได้ คาดจะกดดันทิศทางราคาพลังงาน-หุ้นในกลุ่มพลังงานย่อตัวลงได้บ้างเล็กน้อย

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลที่ชัดเจนมากขึ้น แม้ตลาดในปัจจุบันยังคงกังวลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้เสียงใน 2 สภารวมกันมากกว่า 376 เสียง แต่เราคาดว่า สส. บางกลุ่มและ สว. บางกลุ่มมีโอกาสโหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีตาม ฉันทามติของประชาชน คาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้ในระยะถัดไป อีกทั้งเริ่มมีรายงานว่าตำแหน่ง รมว. ทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ คาดจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำให้ความกังวลในการใช้มาตรการที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มทุนผูกขาดอาจจะไม่รุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดจะส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลดังกล่าวแล้วฟื้นตัวกลับขึ้นได้บ้าง

โดยเรายังชอบหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) จากผลประกอบการ 1Q’66 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดพร้อมทั้ง 2Q’66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ 2). หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ 3). หุ้นในกลุ่มสถานประกอบการนํ้ามัน (OR และ PTG) เรามองแนวโน้มค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่แรงกดดันค่าการตลาดน้ำมันดีเซลผ่อนคลายลงจากช่วงคุมราคาน้ำมันขายปลีกดีเชลไม่เกิน 35 บาทหมดไป รวมทั้งคาดได้รับแรงหนุนจากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวคาดจะหนุนทิศทางกำไรในช่วง 2Q’66 ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “DOHOME” 

  • คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากนโยบายกระตุ้นรายได้ภาคการเกษตรของรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่คาดว่า SSSG อาจกลับมาเป็นบวกในช่วง 2H’66
  • ทางเทคนิค ลงทดสอบเส้นแนวโน้มขาขึ้นทำรูปแบบ Hammer แนะซื้อสะสม
  • กลยุทธ์ เก็งกำไรระยะสั้น แนวรับ 14.50 / 14.20 Target 15.60 / 16.20 Stop <13.80

- Advertisement -