ASL Analysis Guide
  • ประเมิน SET Index ระยะสั้นปรับตัวลงต่ำกว่าจุดต่ำ 1518 มีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับ 1507 เป็นจุดพิจารณา ต่ำกว่ารอเล่นรอบใหม่ที่ 1500-1490 แนวต้านทดสอบย 1518/1530
ประเด็นการลงทุน
1. ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป
2. เฟดยังไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
3. จับตาการเซ็น MOU ร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล
  • วันนี้เคาะ CPN คาดว่ากำไรสุทธิจะยังขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY แตะระดับที่ 3 พันล้านบาท

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้  SETI ปิดที่ 1,514.89 จุด ลดลง 11.80 จุด (-0.77%) มูลค่าการซื้อขาย 47,318.45 ล้านบาท รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ ความกังวลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และนโยบายของพรรคก้าวไกล

Research Highlight: เพดานหนี้สหรัฐฯยังไม่มีข้อสรุป/ติดตามการเซ็น MOU การจัดตั้งรัฐบาล

ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป

  • การเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเรื่องปัญหาเพดานหนี้ยังไม่มีข้อสรุป หลังจากคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันประกาศยุติการเจรจาชั่วคราว เพราะทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่ง ปธน.ไบเดน ยังประชุม 57 ที่ญี่ปุ่น
  • ทั้งนี้ คาดว่าหลังจาก ปธน.ไบเดนกลับจากญี่ปุ่นจะมีการเจรจาอีกครั้ง โดยก่อนหน้าการเดินทางไปญี่ปุ่น ปธน. ไบเดน ได้แสดงความเต็มใจที่จะทำตามข้อแลกเปลี่ยนของสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ควบคู่ไปกับการปรับมาตรการภาษี เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้
  • มองว่าจะกระทบต่อภาพรวมการลงทุนทั่วโลกจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และคาดหวังให้ผลลัพธ์ออกมาในทิศทางบวก ก่อน 1 มิ.ย.
  • ส่งผลให้ Dollar index อ่อนค่าลงเล็กน้อย

เฟดยังไม่แน่ใจว่าจําเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ 

  • ปธ.เฟด ยังส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่จะขึ้นในระดับที่ไม่สูงมาก หลังจากเกิดภาวะวิกฤตในภาคธนาคารของสหรัฐ
  • ยังมีความเห็นของ จนท. เฟตหลายท่านที่ให้ความเห็นว่า เฟตยังควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่น ปธ.เฟดสาขาดัลลัส, สาขาแอตแลนตา และสาขานิวยอร์ก เนื่องจาก ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด (ข้อมูลตลาดแรงงาน) ไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเยือนมิ.ย.
  • อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก Fed watch tool ตลาดยังให้น้ำหนักสูงถึง 90% ที่เฟลจะยังคงอัตราดอกเบี้ย 5.00-5.25% ในการประชุม FOMC กลางเดือน มิ.ย.
  • ส่งผลให้ US bond yield ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

จับตาการเซ็น MOU ร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล

  • ภาพรวมตลาดหลังจัดการเลือกตั้ง ปรับตัวลงแรงกว่า 46 จุด ทำให้เราคาดว่าจะไม่เกิด Election rally เนี่องจากความกังวลของการจัดตั้งรัฐบาลที่มีอุปสรรค ประกอบกับนโยบายของพรรคและความกังวลความไม่ต่อเนื่องของนโยบาย ที่กดสั่นหุ้น Big cap. ขณะที่ตลาดพันธบัตรถูกเทขายไปกว่า 6.3 พันล้านบาท
  • ทั้งนี้ยังต้องติดตามรายละเอียดใน MOU ที่ลงนามกับพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่ปัจจุบันการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลมีคะแนนเสียงรวม 314 เสียง 8 พรรค ต้องการอีก 62 เสียง (คาดหวังจาก ส.ว.+ฝ่ายค้าน)

ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ

  • 23 พ.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.) // ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)
  • 24 พ.ค. สินค้าคงคลังนํ้ามันดิบ
  • 25 พ.ค. รายงานการประชุม FOMC // GDP Q1 สหรัฐ// จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
  • 26 พ.ค. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (เม.ย.) // ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (เม.ย.)

Investment Strategy

  • เงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่าลง มองว่าความกังวลจากประเด็นทางการเมืองในประเทศเริ่มผ่อนคลายลง แต่ตลาดยังไม่ได้รับรู้การปรับประมาณการของ SET มากนัก โดยล่าสุดหลังรายงานงบ 1Q66 เสร็จสิ้น ตลาดให้ Consensus ของ EPS SET ต่ำกว่า 100 บาท จากเดิมในกรอบ 105-110 บาท (เทียบกับฝ่ายวิเคราะห์ที่ 96.9 บาท, EPS growth 29%) หากอิงค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี ที่ 17 เท่า และ Forward PE 23 ที่ 16 เท่า จะได้ดัชนีเป้าหมายใน กรอบ 1550-1647 จุด สะท้อนภาพดัชนีในปัจุบันยังมี Valuation ที่น่าสนใจ พร้อมฟื้นตัว
  • ระยะสั้นปรับตัวลงต่ำกว่าจุดต่ำ 1518 มีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับ 1507 เป็นจุด  พิจารณา ต่ำกว่ารอเล่นรอบใหม่ที่ 1500-1490 แนวต้านทดสอบ 1518/1530

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบโดยแรงบวกในช่วงเช้าได้จางหายไป หลังจากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐในกรุงวอชิงตันหยุดชะงัก ซึ่งทำลายความหวังที่ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำาระหนี้

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกและตลาดหุ้นเยอรมนีแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐจะมีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องเพดานหนี้

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ โดยถูกกดดันจากรายงานที่ว่า การเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐหยุดชะงักลง

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวกเนื่องจาก การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้หนุนแรงซื้อ ทอง

หุ้นเคาะไป คุยไป…CPN

  • CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 66 ขยายตัว 20% จากการขยายตัวของทุกธุรกิจ โดยกลุ่มศูนย์การค้าจะเปิดตัว Central Westville งบลงทุนราว 6.2 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดในช่วง 4Q66 ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งขณะนี้ Occupancy ร้านค้า เกือบเต็ม 100% ทั้งนี้ในปี 67 ตั้งเป้าจะเปิด Central Nakhon Sawan (งบลงทุน 5.8 พันล้านบาท คาดเปิด 1Q67), Central Nakhon Pathom (งบลงทุน 8.2 พันล้านบาท คาดเปิด 2Q67) ซึ่งเป็นโครงการ mixed used ขนาดใหญ่ และ Central Krabi (งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิด 4Q67) ทั้งนี้ ทิศทางของการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง จะช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้
  • สำหรับการพัฒนาโครงการ Mega project Mixed-Used ของ CPN ใน 5-10 ปีนี้ มีทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท พื้นที่รวม 3.5 แสน ตร.ม. เริ่มจากโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 67-68 ปัจจุบัน CPN มีพื้นที่เช่าศูนย์การค้ารวมกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่ามากกว่า 90% ส่วนการเติบโตของรายได้ในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 66-70) วางเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 12-13% ต่อปี
  • ด้านธุรกิจที่อยู่อาศัย ยังคงใช้กลยุทธ์โลเคชั่นใกล้ศูนย์การค้า โดยแผนปี 66 เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจอคารสำนักงานมีโครงการ Central Park Offices ภายในโครงการ Dusit Central Park เป็น World-Class Professional Hub ส่วนกลุ่มโรงแรมปีนี้จะเบิดครบทุก 3 แบรนด์ รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง
  • แนวโน้ม 2Q66 คาดว่ากำไรสุทธิจะยังขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY และระดับที่ 3 พันล้านบาท ได้อานิสงส์บวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย 4M66 อยู่ที่ 8.6 ล้านคน แต่ด้าน margin คาดว่าลดลงจากค่าไฟที่เพิ่มขึ้นและ เป็นช่วง low season ของธุรกิจโรงแรม

 

- Advertisement -