บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +10.5%

Close May 17, 2023 38.00

Price 12M Target 42.00 

BERLI JUCKER (BJC) แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว แต่ราคาหุ้นตอบรับไปมากแล้ว

Event

วานนี้ BJC จัดงานประชุมนักวิเคราะห์ โดยเราสรุปประเด็นสำคัญ ได้ดังนี้

  • ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (BIG C) แนวโน้มธุรกิจดีต่อเนื่อง โดยใน 2Q66 ได้อานิสงส์จาก i) อากาศร้อนจัด ส่งผลให้ยอดขายในธุรกิจ Hardline เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะการขายตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า เป็นต้น ii) ได้อานิสงส์จากวันหยุดยาวสงกรานต์ และการเปิดเทอม (กิจกรรม Back to school) หนุนสินค้ากลุ่ม Softline เช่น เสื้อผ้า อาหารสด, อาหารแห้ง เป็นต้น ขณะที่ 2H66 คาดจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นลูกค้าหลักของ BIG C เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และช่วยหนุนผลประกอบการ
  • ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ แนวโน้มต้นทุนการผลิตขวดแก้ว บริษัทมองว่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2H66 ตามแนวโน้มราคาพลังงานที่ลดลง และ Demand ขวดแก้วยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และไม่ใช่แอลกอฮอลล์ ส่วนทางด้านกระป๋องอลูมิเนียม ความต้องการใช้กระป๋องยังขยายตัวได้ดี แต่ทางด้านต้นทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาอลูมิเนียมค่อนข้างผันผวน ซึ่งจะเป็นตัวกดดันมาร์จิ้น ทั้งนี้ บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อประหยัดต้นทุน และปรับขึ้นราคาขายเพื่อส่งผ่านต้นทุน
  • ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค แนวโน้มต้นทุนการผลิตปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ทางด้านยอดขาย พยายามเพิ่มสินค้า Private Label ไปยังช่องทางจัดจัดหน่าย Traditional Trade
  • ธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค ผู้บริหารเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ Demand ธุรกิจเวชภัณฑ์ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นมองว่ายังทรงตัวอยู่ระดับใกล้เคียงกับ 1Q66 บริษัทเร่งเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น โดยมีการเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น สินค้า Dry Food และ Non Food รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้า Private Label โดยตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 16.0% จาก 14.9% ของปี 2565

Our Take

  • แนวโน้มผลประกอบการ 2Q66 โต YoY จาก i) SSSG ขยายตัวต่อเนื่อง โดย QTD ขยายตัวราว 4-5% ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้ง เทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ และการเปิดเทอม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงแข็งแกร่ง ii) อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ดีขึ้น เนื่องจากเริ่มเห็นผลบวกจากการทยอยปรับขึ้นราคาขายใหม่ ซึ่งจะสะท้อนต้นทุนรอบใหม่มากขึ้น
  • เรามีมุมเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี แต่เรามองว่าตลาดตอบรับการฟื้นตัวของผลประกอบการปี 2566 และมีการเก็งกำไรจากแผน IPO ของ Big C ไปแล้ว สะท้อนผ่านราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว 7.8% YTD ขณะที่ SET INDEX ปรับตัวลง -8.7% YTD และ Upside เหลือจำกัด เราจึงคงคำแนะนำ “TRADING” ที่ราคาเหมาะสม 42 บาท/หุ้น สำหรับผู้มีสถานะลงทุน แนะนำ Lock in Profits และเปลี่ยนไปลงทุนใน MAKRO หรือ CPALL แทน
  • ปัจจัยเสี่ยง: การเปลี่ยนแปลงของราคาต้นทุนวัตถุดิบมีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น เศรษฐกิจชะลอตัวมีผลต่อกำลังซื้อและยอดขายทําได้น้อยกว่าที่คาด
- Advertisement -